เอเอฟพี/เอ็มเอสบีซี - กรีซ จะต้องเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งที่สองในเวลาห่างกันไม่ถึง 2 เดือน ณ วันที่ 17 มิถุนายนนี้ ขณะที่ความหวาดวิตกเกี่ยวกับสถานะของเอเธนส์ในยูโรโซน ก่อความตระหนกแก่ประชาชนทั่วไปที่แห่ไปถอนเงินฝากออกจากธนาคารเพียงแค่วันจันทร์ (14) วันเดียวกว่า 700 ล้านยูโร (ราว 28,000 ล้านบาท)
สำนักข่าวแห่งรัฐเอเอ็นเอรายงานว่า นายปานาจิโอติส ปิกรัมเมนอส ประธานศาลปกครองสูงสุดกรีซ จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีและดูแลการเลือกตั้ง หลังจากศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ไม่สามารถให้กำเนิดรัฐบาลที่สนับสนุนข้อตกลงกู้ยืมเงินอันเข้มงวดของอียูและไอเอ็มเอฟ
ประเทศแห่งนี้และตลาดเงินต่างๆ ต่างเฝ้ารออย่างกังวลต่อกำหนดการวันเลือกตั้งใหม่ท่ามกลางความวิตกว่ากรีซอาจถูกขับออกจากยูโรโซน อย่างไรก็ตามแม้ต่อมาศึกเลือกตั้งใหม่ได้ถูกกำหนดขึ้นในวันที่ 17 มิถุนายน และสามารถถอดความไม่แน่นอนบางอย่างออกไปได้บ้าง แต่ปัญหาทั้งหลายแหล่ก็ยังคงอยู่ไม่ว่ากับทั้งตัวกรีซเองหรือแม้แต่ยูโรโซน
ขณะเดียวกัน ศึกเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะนำมาซึ่งความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาล และด้วยพรรคไซรีซา พรรคฝ่ายค้านหลักที่ต่อต้านข้อตกลงอียู-ไอเอ็มเอฟ ถูกคาดหมายว่าจะเป็นผู้ชนะ นั่นหมายความว่าอนาคตของกรีซในยูโรโซนก็ยิ่งเข้าสู่ภาวะไม่แน่นอนมากขึ้นไปอีก
มีรายงานว่าเมื่อวันจันทร์ (14) ประชาชนชาวกรีซแห่ถอนเงินจากธนาคารต่างๆ ราว 700 ล้านยูโร เพราะเกรงว่าทางการจะลดค่าเงินกะทันหันหากเอเธนส์ต้องออกจากยูโรโซน ขณะที่ข่าวเกี่ยวกับการถอนเงินจำนวนมหาศาลภายในวันเดียวนี้ ยังได้จุดชนวนความตึงเครียดไปยังตลาดทุน ด้วยนักลงทุนเกรงว่าการออกจากยูโรโซนอาจสร้างความยุ่งเหยิงแก่ทุกคน
ในถ้อยแถลงเมื่อช่วงค่ำวันอังคาร (15) ประธานาธิบดีคาโรลอส ปาปูลิอาส เผยว่านายจอร์จ โปรโวปูลอส ประธานธนาคารกลางกรีซ แจ้งผ่านทางโทรศัพท์ว่าสถานการณ์ของธนาคารต่างๆ ยุ่งย่างอย่างมาก แม้ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตื่นตระหนกแต่ความกังวลเหล่านี้อาจกลายเป็นความโกลาหลได้ในอนาคต
คริสเตียน ชูลซ์ เจ้าหน้าที่ของธนาคารเบเรนเบิร์ก กล่าวว่าการถอนเงินบ่งชี้ว่าชาวกรีซกำลังมีความกังวลยิ่งขึ้นต่ออนาคตของประเทศในยูโรโซน “ยังไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่ามีความตื่นตระหนกในตอนนี้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตอันใกล้ ดังนั้นธนาคารกลางจะต้องเข้ามาปกป้องธนาคารต่างๆ เหล่านั้น”
ตลาดทุนผ่อนคลายลงเพียงเล็กน้อยจากคำมั่นของนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนีและนายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศส ที่ประกาศเมื่อวันอังคาร(15) ว่า “เราต้องการให้กรีซอยู่ในยูโรโซน” ขณะที่ แมร์เคิล เผยด้วยว่าทั้งสองชาติมหาอำนาจยุโรปกำลังเตรียมการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการเพิ่มมาตรการส่งเสริมการเติบโตในกรีซ “หากทางว่าเอเธนส์ต้องการ”
อย่างไรก็ตาม ในวันพุธ(16) นายโวล์ฟกัง ชูเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนี ย้ำอีกครั้งว่าไม่มีความเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจาข้อตกลงอียู-ไอเอ็มเอฟใหม่อีกครั้ง ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาของกรีซ ส่งผลให้ค่าเงินยูโรเมื่อวันพุธ (16) ช่วงหนึ่งของการซื้อขายหล่นไปที่ 1.2681 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน