เอเอฟพี - กรณีเศรษฐีชาวจีนรายหนึ่ง ซึ่งขับรถเฟอร์รารีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ชนแท็กซี่จนทำให้ตัวเองและบุคคลอื่นอีก 2 รายเสียชีวิต ก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจในหมู่ชาวสิงคโปร์ ที่ต่อต้านการอพยพเข้าประเทศของชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น
ในวันนี้ (14) หลายเว็บไซต์หลั่งไหลไปด้วยโพสต์ที่ต่อว่าชาวจีน และชาวต่างชาติ ซึ่งอาศัยในประเทศสิงคโปร์ หลังมีรายงานว่า คนขับแท็กซี่ วัย 52 ปีรายหนึ่งเสียชีวิตเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว หลังอุบัติเหตุรถชนในช่วงเช้ามืดวันเสาร์ (12) ที่ผ่านมา
อุบัติเหตุดังกล่าวคร่าชีวิต หม่า ชี่ คนขับรถเฟอร์รารี วัย 31 ปี ในทันที ขณะที่ผู้โดยสารแท็กซี่ซึ่งเป็นหญิงชาวญี่ปุ่น วัย 41 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 ชั่วโมงหลังจากนั้น โฆษกหญิงของสำนักงานตำรวจเผย
ขณะที่ตำรวจยังไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ กับสื่อท้องถิ่น โดยบอกเพียงแต่ว่า คนขับรถสุดหรูคันนั้นเป็นที่ปรึกษาทางการเงินจากเสฉวน ซึ่งยื่นขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร และพักอยู่ในเพนท์เฮาส์แห่งหนึ่งใจกลางเมืองสิงคโปร์กับครอบครัว
ชาวเมืองเจ้าของประเทศที่รู้สึกโกรธเคืองได้ใช้เหตุการณ์นี้เป็นอีกเหตุผลในการต่อต้านนโยบายคนเข้าเมืองของรัฐบาล ที่ทำให้มีแรงงานต่างชาติมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งถูกตำหนิว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น แย่งงาน แย่งใช้ระบบขนส่งสาธารณะ โดยชาวจีนแผ่นดินใหญ่ถูกโจมตีอย่างมาก
หนังสือพิมพ์สเตรทไทมส์รายงานว่า รถเฟอร์รารีคันที่เกิดเหตุเป็นรุ่นลิมิเต็ด ซึ่งหม่าซื้อมาในราคา 1.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือเกือบ 45 ล้านบาท ในวันเกิดปีที่ 30 ของเขาเมื่อปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ภาพจากกล้องวิดีโอวงจรปิด ที่บันทึกอุบัติเหตุดังกล่าวไว้ได้ ถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหลายฉบับ โดยเผยให้เห็นรถของหม่าขับฝ่าไฟแดงชนเข้ากับแท็กซี่อย่างจัง หลังกลับจากเที่ยวกลางคืนกับเพื่อน
ประชากรของสิงคโปร์เพิ่มขึ้นจาก 4.4 ล้านคนในปี 2006 เป็น 5.2 ล้านคนในปี 2011 ส่วนใหญ่มาจากผู้อพยพ และแรงงานต่างชาติ