เอเอฟพี - ราคาน้ำมันนิวยอร์กวานนี้ (27) ขยับขึ้น หลังนักลงทุนคาดเดาว่าด้วยการเติบโตที่อ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจนำมาซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่วอลล์สตรีท เมินเฉยต่อปัญหาในสเปน ปิดบวกเล็กน้อยตามรายงานผลประกอบการบริษัทยักษ์
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 48 เซ็นต์ ปิดที่ 104.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 9 เซ็นต์ ปิดที่ 119.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของประเทศในช่วงไตรมาสแรกของปี เติบโตแค่ 2.2 ชะลอตัวลงจาก 3.0 ของช่วงไตรมาส 4 ปี 2011 ทำให้นักลงทุนคาดหมายว่ามันอาจเป็นสัญญาณผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ3
อย่างไรก็ตาม การดีดตัวของตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างจำกัดและการปรับลดของราคาน้ำมันลอนดอนได้รับอิทธิพลจากความกังวลต่อการเติบโตของอีกฝ่ายหนึ่งของฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดี (27) ปรับลดอันดับเครดิตสเปนจาก A ลงมาที่ BBB+ และให้แนวโน้มติดลบ โดยคาดหมายว่าเศรษฐกิจหมายเลข 4 ของยูโรโซนแห่งนี้จะหดตัวทั้งในปีนี้และปีหน้า
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้(27) เมินเฉยต่อตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจอันน่าผิดหวังของอเมริกาและภาวะเศรษฐกิจที่น่ากังวลของสเปน ปิดบวกอย่างแข็งแแกร่ง ตามรายงานผลประกอบการบริษัทยักษ์ใหญ่
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 23.29 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,228.31 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 18.59 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,069.20 จุด ส่วน เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.40 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,403.38 จุด
หุ้นของอเมซอน พุ่งขึ้นถึง 15.4 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 226.85 ดอลลาร์ต่อหุ้น หลังจากพบว่าบริษัทแห่งนี้ผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกดีกว่าที่คาดหมายไว้อย่างมาก