โลมาเกือบพันตัวเกยตื้นชายฝั่งเปรู ผู้เชี่ยวชาญเร่งหาสาเหตุ

เดอะมิร์เรอร์ - นักวิทยาศาสตร์มึน หลังพบโลมาเกือบ 1,000 ตัว เกยตื้นตายตามชายฝั่งเปรู ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังตรวจสอบสาเหตุว่ามันอาจตาย เพราะไวรัส หรือผลจากการสำรวจหาแหล่งน้ำมันในทะเลหรือไม่

กาเบรียล กวิจานเดรีย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของเปรู เผยว่า รวมแล้วมีโลมาทั้งหมด 877 ตัว ที่ถูกพบเกยตื้นตามชายฝั่งของแคว้นปิวรา และลัมบาเยเก

เวลานี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างศึกษาปัจจัยความเป็นไปได้ต่างๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการตายของโลมาเหล่านี้ ทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสหรือโครงการสำรวจหาแหล่งน้ำมันตามแถบนอกชายฝั่งทางเหนือของเปรูเมื่อไม่นานที่ผ่านมา

กวิจานเดรีย ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุท้องถิ่น ว่า ผลการวิเคราะห์อวัยวะภายในของเหล่าโลมาที่ตายไม่ปรากฏอาการใดๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญเคยเห็นในกรณีอื่นๆก่อนหน้านี้ที่เคยพบว่าฝูงโลมาได้รับผลกระทบจากคลื่นสั่นสะเทือน

เขาบอกต่อว่า เวลานี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญกำลังศึกษาว่าโลมาเหล่านี้อาจป่วยตาย เพราะติดเชื้อไวรัสชนิดใดชนิดหนึ่ง “จนถึงตอนนี้ มันคือข้อสันนิษฐานที่เป็นไปได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น กรณีแบบนี้เคยเกิดในทั้งเปรู เม็กซิโกและสหรัฐฯ”

ทั้งนี้ เขาบอกว่า การทดสอบคลื่นสั่นสะเทือนเพื่อหาแหล่งน้ำมันจะก่อเสียงใต้น้ำที่สามารถทำร้ายโลมาได้ แต่เขาบอกว่ากรณีนี้นับเป็นครั้งแรกในเปรู ที่การตายของโลมาสอดคล้องกับคลื่นสั่นสะเทือน

เริ่มพบเห็นโลมาเกยตื้นตั้งแต่เดือนมกราคม โดยโลมาเหล่านั้นมีสภาพกระดูกหูแตกและอวัยวะบางส่วนยุบลง บ่งชี้ว่าคลื่นช็อคที่เกิดจากการทดสอบคลื่นสั่นสะเทือนอาจเป็นต้นตอที่ทำให้พวกมันเสียชีวิต

กระนั้นก็ดี ทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงประมง ระบุว่า จากหลักฐานที่มีในตอนนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถชี้ชัดถึงความสัมพันธ์ระหว่างการตายของโลมากับการสำรวจหาแหล่งน้ำมัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลหลายคน ก็ยืนยันว่า เหล่านักวิทยาศาสตร์อยู่ระหว่างศึกษาเพิ่มเติมและคาดหมายว่า จะสรุปถึงสาเหตุที่แน่ชัดได้ในสองสัปดาห์