xs
xsm
sm
md
lg

“ฮอลลีวูด” เร่งตะลุย “แดนมังกร” แก้ปัญหา “ตลาดอเมริกา” ซบเซา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - อุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่กำลังเฟื่องฟูของจีน ดึงดูดยักษ์ใหญ่จากฮอลลีวูด ที่ต้องขะมักเขม้นหาช่องทางรายได้ชดเชยส่วนต่างกำไรที่หดหายในบ้าน

หนังที่มีธีมเกี่ยวกับเอเชีย โดยเฉพาะจีน มาแรงมาก ขณะที่ยอดขายตั๋วในอเมริกาปีที่แล้วตกต่ำสุดในรอบ 16 ปี สตูดิโอใหญ่สุดบางแห่ง จึงเริ่มเข้าไปกรุยทางในแดนมังกรอย่างจริงจัง เช่น “ดรีมเวิร์กส์ แอนิเมชัน” กำลังเข้าไปตั้งออฟฟิศในจีน “ลีเจนดารี” สตูดิโอที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จถล่มทลายของ “แบทแมน” ภาคต่างๆ ที่เป็นฝีมือผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลน รวมถึง “เดอะ แฮงก์โอเวอร์” กำลังดูลู่ทางอยู่เช่นเดียวกัน

พระเอกดัง คีอานู รีฟส์ เริ่มเส้นทางการกำกับภาพยนตร์กับ “แมน ออฟ ไท่ ฉี” ที่ขณะนี้ถ่ายทำอยู่ในจีนและฮ่องกง ขณะที่ “3 อิเดียตส์” หนังดรามา-คอมเมดี้ของ อามีร์ ข่าน จากบอลลีวูด อยู่ในระหว่างขั้นตอนการเจรจาเพื่อรีเมกเป็นเวอร์ชันฮอลลีวูด

เทรซี เทรนช์ เอ็กเซ็กคิวทีฟโปรดิวเซอร์ของ “จัสต์ แมร์ริด” และ “เอเวอร์ อาฟเตอร์” กล่าวในงานฮ่องกง อินเตอร์เนชันแนล ฟิล์ม แอนด์ เทเลวิชัน มาร์เก็ต (ฟิล์มมาร์ต) ที่ฮ่องกงเมื่อเดือนที่แล้วว่า แม้สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดหนังใหญ่ที่สุดในโลก แต่ภายใน 10 ปีข้างหน้า ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป

ฟิล์มมาร์ต เป็นตลาดบันเทิงใหญ่สำหรับเอเชีย และติดท็อป 3 งานหนังใหญ่สุดของโลก ปีนี้ดึงดูดผู้ร่วมแสดงนิทรรศการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 648 คน และผู้ซื้ออีกกว่า 5,700 คน เพิ่มจากปีที่แล้ว 14% เฉพาะพาวิลเลียนของอเมริกามีบริษัทหนังนำผลงานมาโชว์ 40 บริษัท มากกว่าปี 2011 ราว 25%

สำหรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีน ก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสร้างสถิติใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ โดยเก็บรายได้ในปี 2011 ราว 13,100 ล้านหยวน (2,070 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 30%

สำหรับปีนี้ คาดว่า จะมีโรงหนังเพิ่มอีกประมาณ 2,500 จอ จากปัจจุบันที่จีนเป็นตลาดหนังอันดับ 3 ของโลกรองจากญี่ปุ่นและอเมริกา

โมชัน พิกเจอร์ แอสโซซิเอชัน (เอ็มพีเอ) เผยว่า รายได้จากภาพยนตร์ในอเมริกาและแคนาดา ระหว่างปี 207-2011 เพิ่มขึ้นเพียง 6.3% อยู่ที่ 10,200 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ในเอเชีย-แปซิฟิกโตถึง 38% เป็น 9,000 ล้านดอลลาร์

“เดอะ ฟลาวเวอร์ส ออฟ วอร์” ที่นำแสดงโดยคริสเตียน เบล เจ้าของรางวัลออสการ์ เป็นหนังทำเงินสูงสุดในจีนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา คือ 90 ล้านดอลลาร์ อีกทั้งยังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมในงานโกลเด้น โกลบส์ในอเมริกา

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นขณะที่ฮอลลีวูดมองจีนอย่างมีนัยมากขึ้น

“มีเรื่องราวมากมายที่คุณสามารถบอกเล่าได้ และขณะนี้จีนร้อนแรงมาก ใครๆ จึงอยากรู้จักประเทศนี้มากขึ้น” เกลนน์ เบอร์เกอร์ ผู้เขียนบท “กังฟู แพนดา” แอนิเมชันเรื่องดังของฮอลลีวูดในปี 2008 และออกภาค 2 ตามมาเมื่อปีที่แล้ว กล่าว

แอนิเมชันเรื่องนี้กวาดรายได้ก้อนใหญ่ในจีน แม้เป็นเรื่องของโป แพนดาตัวโตที่ฝันอยากเก่งกังฟู แต่เบอร์เกอร์บอกว่า จริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่เรื่องราวเกี่ยวกับจีนหรือกังฟูเลย

“เราแค่พยายามเล่าเรื่องของคนที่เป็นไก่รองบ่อน แต่ที่คนจีนให้การต้อนรับอย่างดีเป็นเพราะพวกเขาคิดว่า แอนิเมชันเรื่องนี้เคารพวัฒนธรรมจีนอย่างมาก”

เฉพาะในจีน กังฟู แพนดา กวาดรายได้ 26 ล้านดอลลาร์ จากที่ทำได้ทั่วโลก 630 ล้านดอลลาร์

ผู้คร่ำหวอดในวงการ ชี้ว่า ผู้ชมจีนมักถูกดึงดูดด้วยองค์ประกอบที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนหรือสิ่งที่พาดพิงถึงจีน

“คนเรามักอยากรู้สึกมีส่วนร่วม ถ้าคุณมีข้อความที่เป็นสากลและน่าสนใจ ทุกคนจากทุกที่จะสามารถมีส่วนร่วมได้” ริตา เซียว ผู้เขียนบทเรื่อง “ทอย สตอรี่ 2” และ “มู่หลาน” แอนิเมชันเกี่ยวกับตำนานนักรบที่เป็นเด็กหญิงจีน กล่าว

อย่างไรก็ดี หนึ่งในอุปสรรคสำคัญสำหรับผู้สร้างหนังต่างชาติที่ต้องการเจาะตลาดจีน คือ การจำกัดจำนวนหนังต่างชาติที่สามารถฉายได้ในจีนเพียงปีละ 20 เรื่อง ซึ่งบีบให้สตูดิโอนอกต้องร่วมสร้างหนังกับหุ้นส่วนจีน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกห้ามฉาย
กำลังโหลดความคิดเห็น