เอเจนซี - บุตรชายและบุตรสาวของพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี ส่งทนายยื่นคัดค้าน หลังตำรวจสรรพากรอิตาลียึดทรัพย์สินมูลค่า 1.1 พันล้านยูโร โดยอ้างว่าเป็นของครอบครัวอดีตผู้นำลิเบีย
ทรัพย์สินดังกล่าวประกอบด้วย หุ้นบลูชิปในบริษัทของอิตาลีหลายแห่ง, จักรยานยนต์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน 1 คัน และผืนป่าบนเกาะแห่งหนึ่งในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติลิเบียในนามครอบครัวกัดดาฟี ตำรวจสรรพากรอิตาลี เผย
ทนายความของไอชา และซาดี กัดดาฟี ซึ่งอยู่ระหว่างลี้ภัยตั้งแต่บิดาถูกโค่นอำนาจเมื่อปีที่แล้ว กล่าวว่า ทรัพย์สินเหล่านี้ได้มาจากการลงทุนโดยชอบด้วยกฎหมายของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ
“การที่ตำรวจอิตาลียึดทรัพย์เหล่านี้ ถือเป็นการกระทำอย่างล่าช้าและผิดกฎหมายตามสั่งศาลที่น่าสงสัย” ทนาย นิค คอฟแมน แถลงในฐานะตัวแทนครอบครัวกัดดาฟี
“ไม่มีเงินแม้แต่ดอลลาร์เดียวที่ถูกใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวของครอบครัวกัดดาฟี และไม่มีแม้แต่เซนต์เดียวที่ใช้ไปเพื่อก่ออาชญากรรม”
“อดีตผู้นำมูอัมมาร์ กัดดาฟี สนับสนุนธุรกิจของอิตาลีอย่างเต็มกำลังผ่านกองทุนต่างๆของรัฐบาล และทำเช่นนั้นเพื่อผลประโยชน์ของชาวลิเบียเอง” ถ้อยแถลงจากทนาย ระบุ
อิตาลีซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาณานิคมของลิเบีย เคยเป็นพันธมิตรยุโรปที่ใกล้ชิดรัฐบาลกัดดาฟีมากที่สุด และลิเบียก็นำรายได้มหาศาลจากการค้าน้ำมันเข้าไปลงทุนในอิตาลีจำนวนมาก
หลัง กัดดาฟี ถูกฝ่ายกบฏโค่นล้มได้สำเร็จ สถาบันระหว่างประเทศและคณะปกครองใหม่ของลิเบียก็พยายามนำทรัพย์สินเหล่านี้กลับคืน โดยอ้างว่าเป็นสิ่งที่ครอบครัวกัดดาฟียักยอกเอาไปจากลิเบีย
เจ้าหน้าที่กรุงตริโปลีระบุว่า ทรัพย์สินเหล่านี้อาจมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่วนใหญ่ถูกซ่อนเร้นไว้ในต่างประเทศ โดยใช้กลไกการเงินอันซับซ้อนเพื่อปิดบังที่มา