เอเอฟพี - ญี่ปุ่นแขวนคอนักโทษประหาร 3 ราย ในวันนี้ (29) โดยถือเป็นการประหารชีวิตผู้กระทำผิดครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งจุดชนวนการโต้เถียงเกี่ยวกับโทษประหารในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนี้ขึ้นมาอีกครั้ง
“วันนี้มีการประหารชีวิตนักโทษ 3 ราย” โทชิโอะ โอกาวะ รัฐมนตรียุติธรรมกล่าวกับผู้สื่อข่าว และว่า “ผมทำหน้าที่ของผมในฐานะรัฐมนตรียุติธรรมตามที่ระบุในกฎหมาย”
การแขวนคอนักโทษในคดีฆาตกรรม 3 รายนี้ เป็นการลงโทษประหารชีวิตครั้งที่ 2 ของพรรคเดโมแครติก ปาร์ตี้ ออฟ เจแปน หรือดีพีเจ นับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่อำนาจในเดือนกันยายนปี 2009
ญี่ปุ่นไม่ได้ประหารชีวิตใครเลยในปี 2011 ซึ่งเป็นปีแรกในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ ที่รัฐบาลโตเกียวไม่ได้ลงโทษขั้นสูงสุดนี้กับผู้ใดแม้แต่คนเดียว ท่ามกลางการโต้แย้งกันถึงสิทธิ และความไม่ถูกต้องของโทษประหาร
โอกาวะกล่าวหลังการแขวนคอนักโทษทั้ง 3 รายแล้วว่า ยังมีผู้ที่ต้องโทษถึงขั้นประหารชีวิตอีก 132 คน ในจำนวนนั้นรวมถึง โชโกะ อาซาฮาระ ผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีรถไฟใต้ดินในกรุงโตเกียวด้วยก๊าซซารินเมื่อปี 1995
การประหารชีวิตครั้งล่าสุดของญี่ปุ่น เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ปี 2010 เมื่อเคโกะ ชิบะ รัฐมนตรียุติธรรมสมัยนั้น ซึ่งเคยเป็นนักสังคมนิยม และทนายความ อนุมัติให้แขวนคอนักโทษ 2 ราย แม้ว่าตัวเธอจะคัดค้านโทษประหารมานาน
สำหรับนักโทษทั้ง 2 คนดังกล่าวคือ คาซูโอะ ชิโนซาวา วัย 59 ปี ฆาตกรฆ่า 6 ศพ และยังเผาร้านเพชรแห่งหนึ่ง และฮิเดโนริ โอกาตะ วัย 33 ปี ซึ่งสังหารชาย 1 คน หญิง 1 คน และทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสอีก 2 คน
ทั้งนี้ โทษประหารชีวิตในญี่ปุ่นนั้นมีไว้สำหรับผู้ที่ก่อเหตุฆาตกรรมหลายราย และนอกจากสหรัฐฯ แล้ว แดนปลาดิบเป็นประเทศประชาธิปไตยใหญ่เพียงประเทศเดียวที่ยังนำโทษประหารชีวิตมาใช้ จนถูกรัฐบาลยุโรป และกลุ่มเรียกร้องสิทธิมนุษย์หลายแห่งประท้วงคัดค้าน
