เอเอฟพี - เกิดเหตุระเบิดที่หน้าสถานทูตอินโดนีเซียในกรุงปารีสเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(21) ส่งผลให้อาคารใกล้เคียงได้รับความเสียหาย ทว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ตำรวจฝรั่งเศสระบุ
เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 5.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น (11.45 น. ตามเวลาในไทย) ขณะที่ท้องถนนฝั่งตะวันตกของกรุงปารีสยังคงเงียบสงัด แรงระเบิดทำให้กระจกอาคารในรัศมี 50 เมตรแตกกระจาย และเกิดเพลิงลุกไหม้รถยนต์ 2 คัน
ผู้กำกับการตำรวจ มิเชล โกแดง รุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมกับผู้บัญชาการตำรวจ ฌอง-ลูอิส ฟิอามองกี ซึ่งเผยกับสื่อว่า พนักงานเก็บขยะพบถุงต้องสงสัยวางอยู่ใต้หน้าต่างสถานทูตอินโดนีเซีย
“เขามองเข้าไปในถุง จากนั้นจึงเปิดดู และพบกล่องที่มีสายไฟติดอยู่ จึงคิดว่าต้องเป็นระเบิดแน่นอน ก็เลยวางมันลงและรีบหนีออกมาแจ้งตำรวจ ซึ่งก็เป็นช่วงที่ระเบิดทำงานพอดี” ฟิอามองกี ให้สัมภาษณ์ พร้อมระบุว่า ระเบิดลูกนี้น่าจะมีน้ำหนักหลายกิโลกรัม
“แม้ไม่มีผู้บาดเจ็บ แต่ชาวแฟลตที่อยู่ใกล้เคียงก็ตกใจกันมาก” เขากล่าว
ขณะนี้ยังไม่มีฝ่ายใดออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุวินาศกรรมดังกล่าว
เตอูกู ไฟซาเซียห์ โฆษกฝ่ายกิจการต่างประเทศของประธานาธิบดี ซูซิโล บัมบัง ยุทโธโยโน แถลงว่า ทางกรุงจาการ์ตาทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังสืบสาวว่า สถานทูตอินโดนีเซียคือเป้าหมายของการโจมตีจริงหรือไม่
“เมื่อช่วงปี 2000 กว่าๆก็เคยเกิดเหตุระเบิดที่ไม่รุนแรงนักหน้าสถานทูตในปารีส แต่ปรากฎว่าเป็นแค่เรื่องภายในท้องถิ่น ไม่ใช่ภัยคุกคามระดับชาติ” ไฟซาเซียห์ ระบุ
“ทูตประจำฝรั่งเศสแจ้งมาว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นเวลา 5.20 น. ที่สี่แยกใกล้ๆกับสถานทูต แต่ยังไม่ทราบว่าเป้าหมายของระเบิดคือที่ไหน”
ด้าน มาร์ตี นาตาเลกาวา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ยืนยันว่า จะไม่มีการปิดสถานทูตในกรุงปารีส แม้จะเกิดเหตุร้ายขึ้นเช่นนี้
“เราชาวอินโดนีเซียมีความอดทนและยืดหยุ่น ผมไม่คิดว่าเหตุระเบิดเล็กๆน้อยๆจะส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานของเรา... แต่จะเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นแน่นอน” นาตาเลกาวา เผย