เอเจนซีส์ - กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟระบุเศรษฐกิจโลกพ้นจากขอบเหว พร้อมส่งสัญญาณว่า ยูโรโซนและสหรัฐฯ เริ่มมีเสถียรภาพ แต่ก็เตือนว่าปัญหาหนี้ในประเทศพัฒนาแล้ว ตลอดจนภาวะน้ำมันแพง และแนวโน้มการชะลอตัวในระยะกลางของตลาดเกิดใหม่ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่รออยู่
คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวที่ปักกิ่งเมื่อวันอาทิตย์ (18) ว่าเศรษฐกิจโลกอยู่บนเส้นทางการฟื้นตัว ทว่าไม่เหลือที่ทางเผื่อเอาไว้เสียแล้วถ้าหากเกิดความผิดพลาดด้านนโยบายขึ้นมา
ลาการ์ดแจงว่า สัญญาณการฟื้นเสถียรภาพที่ปรากฏขึ้นบ่งชี้ว่า การดำเนินการด้านนโยบายในช่วงวิฤตการเงินโลกส่งผลแล้ว ดังจะเห็นได้จากดัชนีบ่งชี้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ดีขึ้นเล็กน้อย ตลอดจนการที่ยุโรปดำเนินมาตรการอันสำคัญเพื่อแก้ไขวิกฤตด้วยการทำข้อตกลงล่าสุดกับกรีซ
ในส่วนภัยคุกคามจากการผิดนัดชำระหนี้ของเอเธนส์นั้น ลาการ์ดชี้ว่า เริ่มบรรเทาลงหลังจากเจ้าหนี้เอกชนส่วนใหญ่ยอมรับแผนการสวอปพันธบัตร แม้ต้องขาดทุนถึง 100,000 ล้านยูโร (132,000 ล้านดอลลาร์) ก็ตาม
สำหรับสถานการณ์ของสหรัฐฯ เธอชี้ว่าเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว โดยการใช้จ่ายภาคธุรกิจและผู้บริโภคต่างกระเตื้องขึ้น เช่นเดียวกับตลาดงาน แม้อัตราว่างงานยังสูงและตลาดที่อยู่อาศัยซบเซา
กระนั้นยังคงมีความเสี่ยงสำคัญทางเศรษฐกิจและการเงินรออยู่ ได้แก่ ระบบการเงินในประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าที่เปราะบางและถมทับด้วยภาระหนี้สูงทั้งในภาครัฐและเอกชน โดยในเรื่องนี้ ลาการ์ดยกตัวอย่างว่า ในปี 2012 นี้ภาครัฐและภาคการธนาคารของยูโรโซนต้องการเงินทุนสำหรับการขยายเวลาการชำระหนี้เป็นจำนวนประมาณ 23% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
ความเสี่ยงประการที่สองได้แก่ ภาวะน้ำมันแพง และอันดับต่อมา ก็คือความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นที่กิจกรรมเศรษฐกิจในพวกประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่จะชะลอลงในระยะกลาง
ลาการ์ดเสริมว่า การว่างงานในหมู่คนหนุ่มสาวควรได้รับการแก้ไข และทุกประเทศต้องยึดมั่นกับนโยบายที่ผ่านมาเพื่อให้เศรษฐกิจโลกฟื้นเสถียรภาพต่อไป
นายใหญ่ไอเอ็มเอฟกล่าวต่อไปว่า ประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลกต้องสานต่อมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายการคลังแบบสมดุล ควบคู่ไปกับการปฏิรูปภาคการเงินและสถาบัน เพื่อซ่อมแซมความเสียหายจากวิกฤตและปรับปรุงความสามารถในการแข่งขัน
ขณะเดียวกัน ชาติเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ต้องปรับเทียบนโยบายเศรษฐกิจมหภาคเพื่อป้องกันผลจากการชะลอตัวในประเทศพัฒนาแล้ว และป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจภายในร้อนแรงเกินไป
ลาการ์ดสำทับว่า พวกประเทศเศรษฐกิจชั้นนำจำเป็นต้องร่วมมือกันภายใต้วัตถุประสงค์เดียวกัน พร้อมกันนี้เธอยังกล่าวชื่นชมจีนในการเป็นผู้นำและแสดงให้เห็นถึงทักษะด้านนโยบายในระหว่างวิกฤตการเงินโลก แต่แนะว่า ปักกิ่งยังต้องเดินหน้าแผนการลดการพึ่งพิงการส่งออกและการลงทุน และหันไปเน้นการบริโภคภายในให้มากขึ้นแทน
ทั้งนี้ ลาการ์ดอยู่ระหว่างเดินทางเยือนจีนเป็นเวลา 2 วันตั้งแต่วันอาทิตย์ เธอมีกำหนดการร่วมประชุมกับรองนายกฯ หวังฉีซาน ก่อนเดินทางต่อไปยังอินเดีย