เอเจนซี - พรรคคองเกรสอินเดียส่อแววพ่ายการเลือกตั้งในรัฐอุตตรประเทศ โดยมีคะแนนมาเป็นที่ 4 จากผลการนับคะแนนซึ่งยังไม่เสร็จสิ้น วันนี้ (5) และนับเป็นความล้มเหลวครั้งสำคัญของ ราหุล คานธี ซึ่งหวังคว้าชัยชนะในรัฐซึ่งมีประชากรมากถึง 200 ล้านคน อันจะเป็นบททดสอบสำคัญว่าเขาจะมีโอกาสก้าวไปถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอินเดียได้หรือไม่
ราหุล ซึ่งเป็นทายาทของสายตระกูล เนห์รู-คานธี ที่ปกครองอินเดียมาเกือบตลอด 65 ปีหลังได้รับเอกราช ทุ่มเทหาเสียงอย่างไม่ลดละเพื่อให้พรรคคองเกรสกลับไปครองที่นั่งส่วนใหญ่ในรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่พรรคคองเกรสไม่เคยเข้าไปสร้างฐานอำนาจได้เลยตลอด 22 ปีที่ผ่านมา
“ถ้าเป็นความจริงก็น่าประหลาดใจมาก” อภิเษก มนู สิงห์วี โฆษกพรรคคองเกรสเผย หลังผลการนับคะแนนบางส่วนชี้ว่า พรรคของเขาน่าจะได้ ส.ส.ไม่ถึง 120 ที่นั่งจากทั้งหมด 403 ที่นั่งตามที่คาดหวังไว้
“ผมยังไม่เชื่อแนวโน้มที่ออกมา” สิงห์วีกล่าว
ผลการนับคะแนนล่าสุดปรากฏว่า พรรคคองเกรสและพันธมิตรในท้องถิ่นได้ที่นั่ง ส.ส.มาเพียง 38 ที่นั่งเท่านั้น จากผลการนับคะแนนแล้ว 386 ที่นั่ง
ทั้งนี้ ยังมีแนวโน้มว่าพรรคของคานธีจะพ่ายแพ้ในรัฐปัญจาบและอุตตรขัณฑ์ด้วย ทว่ายังได้เสียงส่วนใหญ่จาก 2 รัฐเล็กๆ คือ มณีปุระ และ กัว ซึ่งจัดการเลือกตั้งไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ในการเลือกตั้งคราวที่แล้ว พรรคคองเกรสก็ได้ที่นั่ง ส.ส. จากรัฐอุตตรประเทศเพียง 22 ที่นั่งเท่านั้น
พรรคฝ่ายซ้ายสมัชวดี (เอสพี) คาดว่าจะมีคะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1ในรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งหมายถึงการกลับคืนสู่อำนาจของ มูลายัม สิงห์ ยาดัฟ อดีตนักมวยปล้ำที่เคยเป็นผู้ปกครองรัฐอุตตรประเทศเมื่อปี 1989 และอาจเป็นการสิ้นสุดตำแหน่งผู้ว่าการรัฐของ น.ส.มายาวตี นักการเมืองหญิงคนดังแห่งพรรคบีเอสพี ที่มาจากวรรณะจัณฑาล
ความพ่ายแพ้ของพรรคคองเกรสในรัฐอุตตรประเทศและรัฐอื่นๆ จะยิ่งเป็นอุปสรรคแก่รัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรี มาน โมฮัน ซิงข์ ในการดำเนินการปฏิรูปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอินเดีย ซึ่งเติบโตไม่ถึง 7 เปอร์เซ็นต์