เอเจนซีส์ - บรรดารัฐมนตรีคลังของกลุ่มประะทศจี 20 เร่งหารือกันในกรุงเม็กซิโกซิตีเป็นวันที่สองในวันอาทิตย์(26) เพื่อให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับแพคเก็จกอบกู้เศรษฐกิจโลกก้อนใหม่มูลค่าเฉียด 2 ล้านล้านดอลลาร์ภายในเดือนเมษายน ซึ่งจะหยุดยั้งไม่ให้วิกฤตหนี้ยูโรโซนลุกลามและฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยที่ล่าสุดเยอรมนีซึ่งเคยตั้งท่าคัดค้านเรื่องนี้ ดูมีท่าทีอ่อนลงแล้ว
หลายประเทศในกลุ่มจี 20 ไม่ว่าจะเป็นชาติพัฒนาแล้วอย่าง สหรัฐฯ, อังกฤษ, ญี่ปุ่น หรือพวกเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่อย่าง บราซิล ต่างมีความเห็นว่าในภาวะที่ปัญหาหนี้ภาคสาธารณะของยุโรปยังไม่คลี่คลาย จึงควรต้องเตรียมกองทุนกอบกู้เศรษฐกิจโลกมูลค่ามหึมาเอาไว้ ด้วยวิธีอัดฉีดเงินทุนเพิ่มเติมให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ทว่าพวกเขาเห็นว่าก่อนอื่นยุโรปควรแสดงความพร้อมที่จะเข้าร่วมในเรื่องนี้ ด้วยการเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่กองทุนฟื้นเสถียรภาพยุโรป
เมื่อวันอาทิตย์(26) เยอรมนีซึ่งเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็งที่สุดของยุโรป ระบุว่าจะตัดสินใจภายในเดือนมีนาคมนี้ ในเรื่องเกี่ยวกับการเพิ่มเงินทุนให้แก่กองทุนเสถียรภาพยุโรป ความเคลื่อนไหวเช่นนี้จึงถูกมองว่า เป็นการแผ้วถางทางให้เกิดกองทุนกู้เศรษฐกิจโลกก้อนมหึมาก้อนใหม่
กลุ่มจี 20 มีกำหนดประชุมระดับผู้นำครั้งต่อไปในสิ้นเดือนเมษายน ความเคลื่อนไหวในการเพิ่มเงินทุนของไอเอ็มเอฟและของยุโรปเช่นนี้ ทำให้มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นที่โลกจะมีทรัพยากรระหว่างประเทศก้อนโตให้อุ่นใจในช่วงเวลาดังกล่าว และโน้มน้าวตลาดการเงินให้เชื่อว่า จี 20 สามารถสกัดกั้นปัญหาหนี้ยูโรโซนไม่ให้บานปลายได้
ความพยายามครั้งนี้หากประสบความสำเร็จ ก็ถือว่าเป็นการระดมกองทุนที่มีมูลค่ามากที่สุดนับจากปี 2008 ซึ่งกลุ่มจี 20 ลงขันกัน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจโลกจากวิกฤตภาคการเงิน
วูล์ฟกัง ชะออยเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนี กล่าวในวันอาทิตย์ที่เม็กซิโกซิตีว่า ผู้นำยุโรปจะจัดการเกี่ยวกับความเหมาะสมของกองทุนรักษาเสถียรภาพยุโรปภายในเดือนหน้า โดยจะบรรจุอยู่ในวาระการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (อียู) ในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ทั้งนั้น ภายใต้สมมติฐานว่า แผนการอัดฉีดกรีซรอบ 2 ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาเยอรมนีแล้ว
การที่เบอร์ลินยินดีหารือเรื่องขนาดกองทุนนี้นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะเท่าที่ผ่านมา จากที่ต้องเผชิญการต่อต้านในรัฐสภาของตนเองเรื่องเงินช่วยเหลือกรีซงวดที่ 2 รัฐบาลเยอรมนีจึงคัดค้านการขยายกองทุนฟื้นฟูยุโรปโดยอ้างว่า จะบั่นทอนความพยายามในการบังคับใช้วินัยทางการคลังกับประเทศที่มีหนี้สินจำนวนมาก
การขยายกองทุนฟื้นเสถียรภาพของยุโรปนั้น หลายๆ ประเทศเสนอให้ใช้วิธีการรวมกองทุนชั่วคราวและกองทุนถาวรเข้าด้วยกัน ซึ่งจะกลายเป็นกองทุนที่มีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ และหากยุโรปเดินหน้าเรื่องนี้ ก็จะเปิดทางให้จี 20 ตอบสนองข้อเรียกร้องของไอเอ็มเอฟในการอัดฉีดเงินทุนก้อนใหม่ 500,000-600,000 ล้านดอลลาร์ จากที่มีอยู่ปัจจุบัน 358,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อรวมกับกองทุนของยุโรปแล้วจะมีมูลค่าถึง 1.95 ล้านล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ประเทศ จี 20 ที่อยู่นอกยุโรป กำลังส่งสัญญาณชัดเจนว่า จะไม่ยอมผ่อนคลายความกดดันต่อยุโรปในการพยายามแก้วิกฤตหนี้ โดยเป็นที่คาดหมายกันว่า ในคำแถลงสุดท้ายหลังการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลาง จี 20 ซึ่งจะออกมาในวันอาทิตย์ จะมีการระบุว่า ชาติเศรษฐกิจชั้นนำของโลกจะทบทวนเรื่องทรัพยากรของไอเอ็มเอฟในเดือนเมษายน ทว่า ไม่ได้ระบุวันที่ในการทำข้อตกลง
นอกจากนี้ ยังคาดว่าคำ แถลงจะอ้างอิงถึงภาวะราคาน้ำมันแพงอันเป็นผลจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ว่า เป็นภัยคุกคามต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มแสดงสัญญาณที่เข้มแข็งขึ้น
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันเมื่อวันศุกร์ (24) ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 10 เดือนที่ 125 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน
อนึ่ง ในวันเสาร์ สมาชิกจี 20 ที่เป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมัน กล่าวว่าจะดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นและทำร้ายเศรษฐกิจโลก