เอเอฟพี - องค์การสหประชาชาติแต่งตั้งให้ โคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการยูเอ็น เป็นทูตพิเศษ เพื่อหาทางดับไฟความขัดแย้งในซีเรีย ก่อนที่วันนี้ (24) จะมีการประชุมระหว่างประเทศในนามของ “เฟรนด์ออฟซีเรีย” ซึ่งต้องการยกระดับแรงกดดันให้ระบอบอัสซาดยุติการเข่นฆ่าประชาชน
ท่ามกลางกระแสประณามซีเรียจากทั่วโลกต่อการเสียชีวิตของนักข่าวตะวันตก และการยิงปืนใหญ่ถล่มพลเรือน โคฟี อันนัน อดีตผู้นำยูเอ็นและเจ้าของโนเบลสันติภาพปี 2001 ชาวกานา ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนพิเศษของยูเอ็นและสันนิบาตอาหรับ เพื่อหาทางยุติ “ความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชน และส่งเสริมการหาทางออกของวิกฤตซีเรียโดยสันติ” คำแถลงร่วมของยูเอ็น-สันนิบาตอาหรับ ระบุในวันพฤหัสบดี (23)
เหตุความรุนแรงคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 7,500 คน ตั้งแต่ประชาชนลุกฮือต่อต้านประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด เมื่อ 11 เดือนที่ผ่านมา โดยชาติอาหรับและตะวันตกกำลังเพิ่มแรงกดดันให้มีการเจรจายุติการปราบปรามผู้ประท้วงด้วยความรุนแรง
การประชุม เฟรนด์ออฟซีเรีย ที่กรุงตูนิส เมืองหลวงของตูนิเซีย ในวันนี้ จะมีชาติต่างๆ เข้าร่วมกว่า 60 ประเทศ เพื่อหามาตรการโดดเดี่ยวดามัสกัสให้รุนแรงยิ่งขึ้น พร้อมทั้งให้การสนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาล อย่างไรก็ตาม การประชุมนี้จะไม่มีรัสเซียซึ่งประกาศคว่ำบาตร และจีนร่วมโต๊ะประชุม
ร่างมติเบื้องต้นของ เฟรนด์ออฟซีเรีย ที่เผยแพร่เผยกันในกลุ่มต่อต้าน ระบุว่า จะเรียกร้องให้รัฐบาลซีเรียประกาศ “หยุดยิงในทันที และอนุญาตให้ยูเอ็นและหน่วยงานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมลงพื้นที่ได้โดยเสรี”
ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงข่าวในกรุงลอนดอน ก่อนเดินเข้าทางร่วมประชุมว่า “เรามองไปยังความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมใน 3 ด้าน ได้แก่ การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การเพิ่มแรงกดดันรัฐบาลซีเรีย และการเตรียมการถ่ายโอนสู่ประชาธิปไตย”
ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวก็แถลงประณามการโจมตีเมืองฮอมส์ เมืองใหญ่อันดับสามและศูนย์กลางการต่อต้านรัฐบาล ด้วยคำว่า “ชั่วร้ายและไม่อาจให้อภัย” โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 86 คน ซึ่งเป็นพลเรือน 61 คน จากความรุนแรงทั่วซีเรียในวันพฤหัสบดี
เมื่อวันพุธ (22) การยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองฮอมส์ในเขตบาบา อัมร์ (Baba Amr) ยังได้คร่าชีวิตนักข่าวตะวันตกไป 2 คน กล่าวคือ แมรี โคลวิน นักข่าวสงครามสัญชาติสหรัฐฯ และเรมี ออชลิค ช่างภาพอิสระชาวฝรั่งเศส
นอกจากนี้ ในกรุงเจนีวา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของยูเอ็นเปิดเผยว่า ได้ส่งรายชื่อนักการเมืองและนายทหารซีเรีย ฐานต้องสงสัยว่าอาจ “ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” ถึง นาวี พิลเลย์ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนยูเอ็น
คณะสืบสวนดังกล่าวระบุว่า รัฐบาลซีเรียล้มเหลวในการปกป้องชีวิตพลเรือน อีกทั้งยังพบว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นวงกว้างโดยฝ่ายกบฏซีเรีย ซึ่งล้วนเป็นทหารที่แปรพักตร์ เช่นกัน