เอเอฟพี - รัฐบาลของประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ กำลังพิจารณาตัดลดคลังสรรพาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งรวมถึงทางเลือกในการลดจำนวนหัวรบลงถึง 80% แต่ยังไม่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกำลังอาวุธใดๆ เจ้าหน้าที่เผย
ในปัจจุบัน สหรัฐฯ มีหัวรบพร้อมใช้งาน 1,790 ลูก และต้องลดจำนวนลงให้เหลือ 1,550 ลูกภายในปี 2018 ภายใต้ข้อตกลงควบคุมอาวุธกับรัสเซีย โดยจะมีการเจรจากันเพิ่มเติมในการประชุมสุดยอดด้านนิวเคลียร์นานาชาติที่กรุงโซล เดือนหน้า
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายนี้ เผยว่า การทบทวนนโยบายดังกล่าวนั้นเสนอแนะให้มีการลดคลังอาวุธเพิ่มเติม จากที่ให้ลดจำนวนหัวรบลงเหลือ 1,000-1,100 ลูก เป็น 700-800 ลูก หรือไม่ก็ตัดลดจนเหลือ 300-400 ลูกเลยทีเดียว
“(หัวรบ) 300 ลูกเป็นขอบเขตที่ต่ำมากในจำนวนทางเลือกเหล่านั้น” เขากล่าว โดยว่า “ยังไม่มีการยื่นข้อเสนอใดๆ ต่อประธานาธิบดี และแนวคิดนี้ก็อยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น”
ตามนโยบายของสหรัฐฯ ที่ยึดถือมายาวนาน การลดขนาดคลังสรรพาวุธนั้นน่าจะเกิดขึ้นได้จากการเจรจาปลดอาวุธกับรัสเซียเท่านั้น และการลดจำนวนหัวรบเหลือเพียง 300 ลูก จะเป็นการแหวกแนวยุทธศาสตร์ของอเมริกันครั้งใหญ่ และเป็นตัวเลขที่ไม่ปรากฏมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 แล้ว
โอบามาเคยรับปากว่าจะทำให้โลกปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ในสุนทรพจน์ ณ กรุงปราก เมื่อปี 2009 พร้อมกับสนับสนุนการควบคุมอาวุธโดยเอาตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นประกัน ซึ่งท่าทีเหล่านี้เองที่ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
รายละเอียดเกี่ยวกับการทบทวนนโยบายคลังอาวุธของรัฐบาลสหรัฐฯ นี้มีขึ้นก่อนหน้าการประชุมด้านความมั่นคงนิวเคลียร์ในเกาหลีใต้ เดือนมีนาคม การประชุมที่โอบามาริเริ่มในปี 2010 เพื่อเป็นหนทางในการส่งเสริมการป้องกันการก่อการร้ายนิวเคลียร์