เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันปิดผสมผสานเมื่อวันอังคาร (14) จากความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกและความกังวลต่ออุปสงค์ที่อ่อนแอจากยุโรป ขณะที่วอลล์สตรีทขยับขึ้นได้เล็กน้อย จากแรงผลักของข้อมูลค้าปลีกภายในประเทศ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 17 เซ็นต์ ปิดที่ 100.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 23 เซ็นต์ ปิดที่ 118.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตก คือปัจจัยสำคัญที่ดันให้ราคาน้ำมันตลาดลอนดอนขยับขึ้นปิดในแดนบวกจากความกังวลต่อปัญหาอุปทานตึงตัว หลังจากเมื่อวันจันทร์(13) โจมตีด้วยระเบิดในเวลาไล่เลี่ยกัน 2 ครั้งซึ่งต่างเล็งเล่นงานเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลในอินเดีย และจอร์เจีย โดยต่อมาทางการอิสราเอลออกมากล่าวหาว่าเป็นฝีมือของอิหร่าน
ถัดจากนั้นในวันอังคาร (14) ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายครั้งในกรุงเทพฯ ขณะที่คนร้ายซึ่งเป็นชายชาวอิหร่านได้รับบาดเจ็บขาขาดหลังทำระเบิดหล่นขณะพยายามปาระเบิดเข้าใส่ตำรวจไทย ซึ่งต่อมาสหรัฐฯ และอิสราเอลก็ชี้เป้าสงสัยไปที่เตหะรานเช่นเดิม
ในส่วนของราคาน้ำมันนิวยอร์ก ที่ขยับลงวานนี้(14) นักวิเคราะห์มองว่าเป็นผลมาจากความกังวลต่อปัญหาหนี้สินกรีซและข้อสันนิษฐานของนักลงทุนว่าข้อมูลคลังพลังงานสำรองของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในวันพุธ (15) จะออกมาห่อเหี่ยว
วิกฤตหนี้สินกรีซเลี้ยวเข้าสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายเมื่อวันอังคาร (13) หลังเหล่ารัฐมนตรีคลังยูโรโซนยกเลิกการประชุมพิจารณาปล่อยกู้งวดใหม่แก่กรีซที่เดิมกำหนดไว้ในวันพุธ (15) โดยบอกว่าเอเธนส์ไม่สามารถดำเนินการต่างๆตามข้อเรียกร้องของเจ้าหนี้ได้
ปัจจัยวิกฤตหนี้สินกรีซนี้ก็ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (14) แกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน แต่ก็กระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อยก่อนปิดตลาด จากข้อมูลยอดค้าปลีกของอเมริกา
ด้านดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 4.24 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,878.28 แนสแดค เพิ่มขึ้น 0.44 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,931.83 เอสแอนด์พี ลดลง 1.27 จุด (0.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,350.50
เมื่อวันอังคาร (14) มูดีส์ สถาบันเครดิตเรตติ้งทรงอิทธิพลของโลก หั่นอันดับความน่าเชื่อถือของ 6 ประเทศยุโรป รวมถึงอิตาลี สเปน และโปรตุเกส พร้อมเตือนฝรั่งเศส อังกฤษ และออสเตรีย อาจถูกปรับลดเรตติ้งไปด้วย โดยอ้างว่าประเทศเหล่านี้เปราะบางต่อวิกฤตหนี้ยูโรโซนมากขึ้น
สถาบันเครดิตเรตติ้งแห่งนี้ชี้ว่า สภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอของยุโรปเป็นภัยคุกคามต่อการเดินหน้าใช้มาตรการรัดเข็มขัด และปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งจำเป็นต่อการส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดก็พอมีปัจจัยบวกเข้ามาบ้าง หลังข้อมูลรัฐบาลสหรัฐฯ เผยว่ายอดค้าปลีกของประเทศในเดือนมกราคม เติบโตร้อยละ 0.4 ดีขึ้นจากเดือนธันวาคม ที่ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้านั้น