เอเอฟพี - จีนอาจกลายเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของยุโรปแทนที่สหรัฐฯ ในปีนี้ หลังจากปักกิ่งหันมากระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศเพิ่มขึ้น หัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำกรุงปักกิ่งเผย วันนี้ (6)
ถ้อยแถลงของผู้แทนสหภาพยุโรปมีขึ้น หลังจากนายกรัฐมนตรี เวิน เจียเป่า ของจีน ระบุว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาสนับสนุนกองทุนเพื่อผ่อนคลายปัญหาหนี้สินยูโรโซน เนื่องจากเสถียรภาพของยุโรปนั้นมีความสำคัญยิ่งต่อปักกิ่ง
“มีปัจจัยที่บ่งชี้ว่า ในปี 2012 นี้ จีนอาจจะเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป” มาร์กุส เอเดอเรอร์ ผู้แทนสหภาพยุโรป ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อในกรุงปักกิ่ง
“มูลค่าการส่งออกของยุโรปมายังจีน ขยายตัวเร็วกว่ามูลค่าสินค้าที่เรานำเข้าจากจีน” เอเดอเรอร์เผย โดยอ้างอิงจากแนวโน้มการค้าในปัจจุบัน
สหภาพยุโรปถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับสินค้าจีน ทว่ากรุงปักกิ่งกำลังหันมาใช้นโยบายลดพึ่งพาการส่งออก และสนับสนุนอุปสงค์ภายในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีการนำเข้าสินค้ามากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของจีนซึ่งเติบโตเพียง 9.2 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว จากเดิม 10.4 เปอร์เซ็นต์เมื่อปี 2010 ยังคงเน้นการส่งออกเป็นหลัก และปักกิ่งเองก็กังวลว่า หากวิกฤตหนี้สินยุโรปย่ำแย่ลงกว่านี้อาจกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนก็เป็นได้
เวิน เผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า หลังมีการประกาศลดเรตติ้งประเทศยุโรป ซึ่งทำให้กรีซยิ่งเข้าใกล้ภาวะล้มละลายเข้าไปทุกที ทำให้ทั่วโลกต้องร่วมกันแก้ไขวิกฤตหนี้สินของยุโรปโดยเร่งด่วน
หลังจากพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี ซึ่งเดินทางเยือนปักกิ่งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของยุโรป เวินระบุว่า จีน “กำลังตรวจสอบและประเมินหนทาง” ที่จะเข้าไปมีส่วนคลี่คลายวิกฤตการเงินในยุโรปมากขึ้น และระหว่างเยือนเขตอุตสาหกรรมในมณฑลกวางตุ้งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขายังเน้นย้ำต่อบริษัทท้องถิ่นด้วยว่า ยุโรปมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับจีน
“การช่วยให้ตลาดยุโรปมีเสถียรภาพก็เหมือนกับช่วยตัวเราเอง” เวินเผย