เอเอฟพี - นักโบราณคดีขุดซากโครงกระดูกของหญิง 17 คน ที่ถูกยิงตาย และฝังลงในหลุมศพเดียวกัน ช่วงระหว่างสงครามกลางเมืองของสเปนเมื่อปี 1936-1939 อันเป็นเหตุการณ์ความขัดแย้งครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
ลูเซีย โซกัม วัย 25 ปี เหลนของหนึ่งในเหยื่อเหล่านั้นเผยว่า นับตั้งแต่เริ่มการขุดหลุมฝังศพในเมืองเกเรนา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบซากโครงกระดูกของหญิง 14 รายจากทั้งหมด 17 รายแล้ว
เธอเสริมว่า โครงกระดูกของหญิงรายหนึ่งถูกนำออกไปจากสุสานแห่งนี้แล้วในวันจันทร์ (30) ที่ผ่านมา เพื่อที่ลูกหลานของเธอสามารถนำไปประกอบพิธีที่เหมาะสม
บรรดาหญิงเหล่านี้ ซึ่งถูกตั้งฉายาว่า “กุหลาบทั้ง 17” ถูกกองกำลังของนายพลฟรานซิสโก ฟรังโก โอบล้อม และยิงจนเสียชีวิตในปี 1937 ด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเธอเป็นญาติกับฝ่ายต่อต้านจอมเผด็จการรายนี้
การขุดหลุมฝังศพซึ่งคาดว่าอาจต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์นี้ มีขึ้นในขณะที่ผู้พิพากษา บัลตาซาร์ การ์ซอน ของสเปนเตรียมพิจารณาคดีเป็นครั้งแรก เกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางมิชอบในสมัยการปกครองของนายพลฟรังโก
ในวันอาทิตย์ (29) ที่ผ่านมา ประชาชนหลายพันคนเดินขบวนตามท้องถนนสายต่างๆ ในกรุงมาดริด เพื่อสนับสนุนผู้พิพากษา วัย 56 ปีรายนี้ ซึ่งได้รับการยกย่องจากนานาประเทศด้วยความพยายามของเขาเพื่อขอส่งตัวออกุสโต ปิโนเชต์ ผู้นำเผด็จการของชิลีข้ามแดนจากกรุงลอนดอน
นอกจากนี้ นักโบราณคดีที่ทำการขุดสุสานดังกล่าวยังพบกระสุนปืน กระดุม และหวีใกล้กับซากกระดูกของเหยื่อเหล่านั้นด้วย
“มันยากเพราะหลุมศพบ่งบอกหลายๆ อย่าง เราสามารถเห็นได้ว่าพวกเธอถูกโยนลงไปอย่างไร คนหนึ่งทับอยู่บนตัวคนอื่นๆ” โซกัมกล่าว
“แต่เรามีความสุขเพราะนี่เป็นจุดสิ้นสุดการรอคอยที่ยาวนาน เป็นความรู้สึกมีความสุขมากกว่าที่จะทุกข์ใจ”