เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ ระบุในวันอาทิตย์(22)ว่า เขาตั้งความหวังอย่างแรงกล้าให้ชาวสิงคโปร์ “ทำการบ้าน” เพิ่มอัตราเกิดที่ยังคงต่ำเหลือเกินของนครรัฐแห่งนี้ ภายใน “ปีมังกร” ซึ่งกำลังจะย่างกรายเข้ามา
ในสารที่ส่งถึงประชาชนผ่านทางสื่อมวลชน เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ นายกฯลี ผู้พยายามทำตัวเป็นแบบอย่างด้วยการมีบุตร 4 คน ระบุว่า การที่ครอบครัวของชาวสิงคโปร์จะต้องมีขยายใหญ่มากขึ้น คือ “สิ่งที่มีความสำคัญในลำดับต้นๆ” และเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องมีทารกถือกำเนิดภายในประเทศนี้เพิ่มขึ้น เพื่อธำรงรักษาอัตลักษณ์แห่งชาติของสิงคโปร์เอาไว้
“ผมมีความหวังอย่างแรงกล้าว่า ปีนี้จะเป็นปีมังกรใหญ่สำหรับการมีบุตร … นี่คือเรื่องทรงความสำคัญยิ่งยวดสำหรับการอนุรักษ์แกนหลักของสิงคโปร์ในสังคมของเราเอาไว้ให้ได้” เขาบอก
“เราไม่ได้ต้องการพึ่งพาอาศัยคนอพยพเข้าเมืองเพิ่มมากขึ้นๆ และเราก็ไม่ต้องการเห็นประชากรของเราลดน้อยลงไปทุกปีๆ”
ชาวจีน รวมทั้งผู้ที่มีบรรพบุรุษเป็นคนจีนและยังอยู่ในอิทธิพลวัฒนธรรมจีนอยู่มากอย่างชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่ มีความเชื่อกันว่า ปีมังกรเป็นปีมงคลในการมีบุตรยิ่งกว่าปีอื่นๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะในบรรดาสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของแต่ละปีใน 12 รอบนักษัตรแบบจีน มีเพียงมังกรเท่านั้นที่เป็นสัตว์ในตำนานไม่ใช่สัตว์ที่พบเห็นได้จริงๆ
เชื่อกันว่า เด็กที่เกิดในปีมังกร ซึ่งแต่โบราณเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิด้วย จะเป็นเด็กที่มีความกล้าหาญและสติปัญญา และนำโชคลาภมาให้ครอบครัว
ตัวเลขข้อมูลของสิงคโปร์ชี้ว่า ในปีมังกร 2 ปีก่อนหน้านี้ อันได้แก่ปี 2000 และปี 1988 นครรัฐแห่งนี้มีเด็กเกิดสูงกว่าปีอื่นๆ กว่า 10% ถึงแม้ในปีอื่นๆ ตัวเลขกลับลดต่ำลงด้วยซ้ำ
กล่าวคือ อัตราการเจริญพันธุ์รวม (อัตราบุตรโดยเฉลี่ยที่สตรีคนหนึ่งให้กำเนิด ในระยะเวลาตลอดช่วงวัยมีบุตรของตน) ของสิงคโปร์ กำลงลดต่ำลง “อย่างสม่ำเสมอ” จาก 1.60 คนในปี 2000 เหลือ 1.20 คนในปี 2011 โดยที่ ลี กล่าวย้ำว่า แนวโน้มลดต่ำเช่นนี้ “มีความเป็นจริงมากเป็นพิเศษ” สำหรับชาวสิงคโปร์เชื้อจีน นั่นคือ จาก 1.43 คนในปี 2000 เหลือ 1.08 คนในปี 2011
