เอเจนซี - ทีมประดาน้ำที่กำลังปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตในเรือสำราญหรูลำมหึมาซึ่งเกยตื้นนอกชายฝั่งอิตาลี ได้ระงับภารกิจชั่วคราวเมื่อวันพุธ(18) หลังตัวเรือเกิดเคลื่อนเล็กน้อยและทัศนวิสัยไม่เอื้ออำนวย แต่เหล่าเจ้าหน้าที่ก็หวังว่าจะสามารถกลับมาทำงานต่อได้อย่างเร็วที่สุด
5 วันหลังจากเรือสำราญหนัก 114,500 ตัน เกยหินปะการังใกล้เกาะจีกลีโอ จนอัปปางและค่อยๆเอียงลงเมื่อวันศุกร์(13) ความหวังในการค้นพบผู้รอดรอดชีวิตแทบเลือนลาง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ภัยก็เริ่มเตรียมการสำหรับปั๊มน้ำมัน 2,300 ตันออกจากซากเรือ
จนถึงตอนนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 11 รายและมีอย่างต่ำ 23 คนที่ยังสูญหาย จากเหตุเรือสำราญ “กอสตา กอนกอร์เดีย” ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดกว่า 4,200 คน ประสบอุบัติเหตุหลังจากเริ่มล่องไปตามทะเลเมดิเตอเรเนียน เพื่อไปยังมาร์กเซย์ในฝรั่งเศส และเมืองบาร์เซโลนาในสเปน ไปได้เพียง 2 ชั่วโมง
ฟรานเชสโก สเก็ตติโน กัปตันเรือสำราญ ถูกกล่าวโทษว่าเป็นต้นตอของอุบัติเหตุครั้งนี้จากการกรณีนำเรือเข้าใกล้ฝั่งเกินไป แถมจากนั้นก็ทิ้งเรือก่อนภารกิจอพยพผู้โดยสารแล้วเสร็จ และเมื่อวันอังคาร(17) ศาลมีคำสั่้งกักบริเวณเขาชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดีในฐานความผิดฆ่าคนตายโดยประมาท
ทั้งนี้ปฏิบัติการค้นหาได้ดำเนินการตลอดทั้งวันทั้งคืนจนกระทั่งมีคำสั่งระงับชั่วคราว อย่างไรก็ตามทีมประดาน้ำก็อยู่ในความเตรียมพร้อมสำหรับกลับคืนสู่ปฏิบัติการค้นหาที่ยากลำบากและอันตราย โดยเฉพาะในบริเวณที่จมอยู่ใต้น้ำหลังจากทางทีมตัดสินใจใช้ระเบิดเจาะทะลุลำเพื่อเปิดทางให้เข้าไปถึงส่วนอื่นๆ ที่ยังอาจมีผู้รอดชีวิตติดค้างอยู่
"ทัศนวิสัยแย่มาก เมื่อวานนี้ผมมองไม่เห็นมือของตัวเองเลย" จูเซปเป มินซิออตติ หนึ่งในทีมประดาน้ำกล่าว "ผมหยิบเศษชิ้นส่วนหนึ่งที่ลอยอยู่ในน้ำ แต่ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไรจนกระทั่งศีรษะของผมโผล่พ้นน้ำแล้ว เรากำลังเฝ้ารอดูว่าจะเริ่มกลับมาทำงานได้อีกเมื่อไหร่ เราจะดูว่าวิสัยทัศน์ใต้น้ำดีขึ้นหรือไม่"