เอเอฟพี - นักสิทธิมนุษยชนนานาประเทศ ร่วมกันส่งจดหมายเปิดผนึก เรียกร้องให้ คิม จอง อึน ผู้นำคนใหม่ของเกาหลีเหนือ ยกระดับสิทธิมนุษยชนในประเทศ และสร้างสรรค์มรดกแก่ชนรุ่นหลังที่แตกต่างไปจากที่ คิม จอง อิล ผู้พ่อเคยทำมา
พันธมิตรสากลเพื่อยุติอาชญากรรมต่อมนุษยชาติในเกาหลีเหนือ ขอให้ คิม จอง อึน เปลี่ยนแปลงนโยบาย และลดการละเมิดสิทธิมนุษยชน หลังจากที่ได้รับการขนานนามเป็น “ผู้สืบทอดที่ยิ่งใหญ่” ต่อจาก คิม จอง อิล ซึ่งอำลาโลกไปเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ปีที่แล้ว
จดหมายซึ่งลงนามโดยนักเคลื่อนไหว 39 คน รวมถึงองค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุว่า มีประชาชนทั้งชาย, หญิง และเด็ก ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ หรือค่ายกักกันของเกาหลีเหนือกว่า 200,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักโทษการเมือง หรือเกี่ยวพันเป็นญาติพี่น้องกับผู้ต่อต้านระบอบคิม
“นักโทษต้องทนกับสภาพการคุมขังที่ไม่ต่างจากทาสที่เลวร้ายที่สุด หลายคนเสียชีวิตเพราะขาดอาหาร และการรักษาพยาบาล” กลุ่มดังกล่าวเผย พร้อมระบุว่า แม้แต่ประชาชนเกาหลีเหนือโดยทั่วไปก็ถูกละเมิดสิทธิอยู่เป็นประจำ
หลายหน่วยงานของเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการจับกุมพลเมืองตามใจชอบ, การคุมขังผู้บริสุทธิ์, การทำให้สูญหาย, การบังคับใช้แรงงาน, การทรมาน หรือแม้กระทั่งการสังหาร และยังมีประชาชนอีกมากมายที่ต้องหิวโหย ตกอยู่ในภาวะทุพโภชนาการ และไม่ได้รับบริการทางการแพทย์ที่เพียงพอ
“รัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) มีศักยภาพและทรัพยากรมากพอที่จะดูแลประชาชนให้อยู่ดีกินดี แต่เห็นได้ชัดเจนว่า พวกเขาไม่ทำเช่นนั้น ไม่ว่าจะเกิดจากความละเลยหรือนโยบายของรัฐก็ตาม” จดหมายดังกล่าวชี้
กลุ่มนักสิทธิมนุษยชน ระบุว่า จะยื่นจดหมายเปิดผนึกนี้ต่อสถานทูตเกาหลีเหนือในเมืองต่างๆ ซึ่งรวมถึง ลอนดอน, ปารีส และกรุงเทพมหานคร และจะส่งแฟกซ์ไปยังคณะทำงานอื่นๆ ด้วย
เกาหลีเหนือปฏิเสธคำวิจารณ์ของนานาชาติที่ว่าด้วยสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศของตน โดยเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็ได้กล่าวหามติองค์การสหประชาชาติที่ “แสดงความเป็นห่วงอย่างยิ่ง” ต่อเรื่องดังกล่าวว่า เป็นเพียงแผนป้ายสีที่สหรัฐฯเป็นตัวตั้งตัวตีเท่านั้น