เอเอฟพี - ศาลสูงกัวลาลัมเปอร์มีคำพิพากษาให้ อันวาร์ อิบรอฮิม ผู้นำพรรคฝ่ายค้านมาเลเซีย พ้นผิดในคดีล่วงละเมิดทางเพศอดีตผู้ช่วยชายของตน วันนี้ (9) ซึ่งนับเป็นจุดสิ้นสุดที่ผิดความคาดหมายของคดีรักร่วมเพศ ซึ่ง อันวาร์ ระบุว่าเป็นแผนของรัฐบาลที่ต้องการทำลายอนาคตทางการเมืองของตนและพรรคฝ่ายค้าน ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปจะมาถึง
ภริยา บุตรสาว และส.ส.พรรคฝ่ายค้านต่างเข้าไปรุมล้อมแสดงความยินดีกับ อันวาร์ ในบรรยากาศแห่งความสับสนระคนปลื้มปีติ หลังผู้พากษา โมฮาหมัด ซาบิดีน ดิอาห์ ประกาศคำตัดสินให้อดีตรองนายกรัฐมนตรีผู้นี้พ้นข้อกล่าวหา
ผู้สนับสนุนอันวาร์หลายพันคนที่มารอฟังคำพิพากษาท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ต่างส่งเสียงเฮลั่นพร้อมชูกำปั้นขึ้นฟ้า ทันทีที่คำตัดสินถูกประกาศออกมา
ผู้พิพากษาซาบิดีนระบุในคำพิพากษาสั้นๆ ว่า หลักฐานดีเอ็นเอที่อัยการส่งมาและยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่นั้นไม่น่าเชื่อถือเพียงพอ
“ศาลย่อมคัดค้านที่จะพิพากษาความผิดฐานละเมิดทางเพศ หากปราศจากหลักฐานสนับสนุน ดังนั้น จึงให้จำเลยพ้นข้อกล่าวหาและเป็นอิสระ” ซาบิดีนกล่าว
คำพิพากษาของศาลในคดีรักร่วมเพศซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี วันนี้ (9) ผิดจากความคาดหมายของผู้สังเกตการณ์การเมืองหลายคน รวมถึงตัว อันวาร์ เองซึ่งเคยกล่าวว่า รัฐบาลนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก มีเจตนาที่จะกำจัดเขาซึ่งเป็นเสี้ยนหนามทางการเมือง
“ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า ความยุติธรรมได้เกิดขึ้นแล้ว” อันวาร์ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว หลังผู้พากษาประกาศให้พ้นจากความผิด
“ผมได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์แล้ว แต่เรายังมีวาระที่ต้องต่อสู้ต่อไป เราต้องเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึง” อันวาร์เผย
ผู้นำพรรคฝ่ายค้านมาเลเซียโพสข้อความลงทวิตเตอร์หลังทราบคำพิพากษาของศาลว่า “ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เสียงของประชาชนจะเป็นที่ได้ยิน และรัฐบาลฉ้อฉลจะต้องถูกโค่นจากฐานอำนาจ”
นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสิบกว่าปีที่ อันวาร์ ถูกดำเนินคดีรักร่วมเพศ ทั้งที่เคยมีตำแหน่งเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรีในทศวรรษที่ 1990 และถูกคาดหมายว่าจะได้เป็นผู้นำมาเลเซียคนต่อไป ก่อนจะต้องคดีความจนแทบหมดสิ้นอนาคต
อันวาร์ เคยถูกวางตัวให้สืบทอดอำนาจต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮาหมัด แต่แล้วความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่ก็ทำให้ อันวาร์ พ้นจากตำแหน่งรองนายกฯ ในปี 1998 ก่อนจะถูกจำคุกด้วยข้อหารักร่วมเพศและทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งคนส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นเกมการเมือง
อันวาร์ ได้รับอิสรภาพหลังศาลกลับคำพิพากษาในปี 2004 และผันตัวเองไปเป็นผู้นำพรรค พีเพิลส์ จัสติส ปาร์ตี ซึ่งได้ชัยชนะถล่มทลายเหนือพรรครัฐบาลอัมโน ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2008
หลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปไม่นาน อันวาร์ก็ต้องคดีรักร่วมเพศอีกครั้ง โดยถูกกล่าวหาว่าละเมิดทางเพศอดีตผู้ช่วยชายของตน ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ว่าเป็นแผนป้ายสีของพรรคอัมโนที่ต้องการทำลายคู่แข่งทางการเมือง
รักร่วมเพศถือเป็นพฤติกรรมผิดกฎหมายในมาเลเซียซึ่งเป็นประเทศมุสลิม และมีระวางโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปี