เอเจนซีส์ - ตรงข้ามกับการ์ตูนล้อเลียนที่แต่งแต้มให้เขาเป็นเพลย์บอยตัวประหลาด ในความเป็นจริงแล้วว่ากันว่า คิม จองอิลเป็นนักปกครองที่มีทักษะทางการเมืองและความเลือดเย็น ซึ่งทำให้ระบอบอันทารุณโหดร้ายของเขายังคงเหนียวแน่น ถึงแม้เกาหลีเหนือเผชิญความอดอยากและเศรษฐกิจตกต่ำมาอย่างยาวนานก็ตาม
คิมสร้างฐานอำนาจด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ, ค่ายกักกัน, และทุกลัทธิความเชื่อส่วนตัวที่ถ่ายทอดมาจากพ่อ, ตลอดจนการอาศัยกองทัพขนาดใหญ่
เขาท้าทายการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่า โสมแดงจะล่มจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา และการที่ความช่วยเหลือจากโซเวียตเหือดแห้งลงตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1990
กลางทศวรรษเดียวกัน แม้เกิดปัญหาความอดอยากภายในประเทศอย่างรุนแรง โดยมีการคาดว่า มีผู้เสียชีวิตจากวิกฤตนี้นับล้าน แต่คิมยังสามารถหาทรัพยากรมาป้อนโครงการอาวุธนิวเคลียร์ จนนำไปสู่การทดลองในเดือนตุลาคม 2006 และพฤษภาคม 2009
เกาหลีเหนือถูกกดดันมากขึ้น ทั้งจากการถูกนานาชาติใช้มาตรการคว่ำบาตรกรณีโครงการขีปนาวุธและระเบิดนิวเคลียร์ และทั้งจากสภาพเศรษฐกิจภายในย่ำแย่หนัก แต่แล้วปัจจัยที่เป็นตัวเร่งกระบวนการสืบทอดอำนาจ กลับกลายเป็นเรื่องสุขภาพของคิม
คิมป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองในเดือนสิงหาคม 2008 นอกจากนั้นยังมีกระแสข่าวว่า เขามีอาการไตวายที่ทำให้ต้องฟอกไต รวมทั้งเป็นเบาหวาน และความดันโลหิตสูง
แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงกว่านั้นคือ การตัดสินใจที่เอาแน่เอานอนไม่ได้มากขึ้นของเขา โดยที่อาจเป็นผลพวงจากโรคหลอดเลือดสมอง หรืออาจเป็นเพราะคิมกำลังพยายามโปรโมต คิม จองอุน ลูกชายคนเล็ก ให้ขึ้นเป็นทายาทการเมืองของเขาในที่สุด
กรณีตัวอย่างคือการยิงตอร์ปิโดใส่เรือรบเกาหลีใต้ในเดือนมีนาคม 2010 ที่ทั้งวอชิงตันและโซลกล่าวหาว่าเป็นฝีมือเปียงยาง และนำไปสู่การแซงก์ชันเข้มงวดขึ้นของอเมริกา รวมทั้งการใช้กำลังตอบโต้ของเกาหลีใต้
ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2010 เปียงยางระดมยิงเกาะยอนพยองของเกาหลีใต้ เป็นเหตุให้นาวิกโยธินสองนายและชาวเกาหลีใต้อีก 2 คนเสียชีวิต ถือเป็นการโจมตีเขตพลเรือนครั้งแรกนับจากสงครามเกาหลีปี 1950-1953
ทั้งสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ต่างเตือนว่า อาจมีอันตรายมากขึ้นจากรัฐบาลเปียงยางที่คาดเดาได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ คิม จองอุน กำลังพยายามสร้างเครดิตของตนเองด้วยแสนยานุภาพทางทหาร
ตัวคิม จองอิล นั้นสืบทอดอำนาจมาจากพ่อ คิม อิลซุง ที่จะครบวาระวันเกิดปีที่ 100 ในปีหน้า
จากแฟ้มประวัติที่เปียงยางจัดทำขึ้น คิม จองอิลเกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 1942 ที่ภูเขาเบกดู ซึ่งถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวเกาหลี ทว่า ผู้เชี่ยวชาญอิสระแย้งว่า จริงๆ แล้วอดีตผู้นำที่เพิ่งถึงอสัญกรรมผู้นี้เกิดในค่ายกองจรยุทธ์ในรัสเซีย ขณะที่พ่อของเขาซ่องสุมกำลังต่อสู้กับกองทหารญี่ปุ่นที่เข้ายึดคาบสมุทรเกาหลีเป็นอาณานิคม
หลังจบมหาวิทยาลัยคิม อิลซุง ในเปียงยาง คิมเริ่มไต่เต้าในพรรคแรงงานเกาหลี หรือก็คือพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นพรรคกุมอำนาจแดนโสมแดง และได้รับแต่งตั้งเป็นทายาททางการเมืองอย่างเป็นทางการในปี 1980 แต่ขึ้นครองอำนาจจริงๆ ในอีก 3 ปีต่อมาเมื่อคิม อิลซุงถึงแก่อสัญกรรม
อาคันตุกะตลอดจนผู้หลบหนีตีจากเกาหลีเหนือ มักให้ภาพคิมเป็นเพลย์บอยนักดื่มที่ชื่นชอบภาพยนตร์ต่างประเทศ อาหารเลิศรส และสาวงาม
ว่ากันว่าเขาสะสมหนังฮอลลีวูดไว้ถึง 20,000 เรื่อง และสั่งให้ลักพาตัวผู้กำกับภาพยนตร์และภรรยาที่เป็นดาราเกาหลีใต้ในปี 1978 เพื่อไปสร้างภาพยนตร์ให้เขา
แต่ภาพลักษณ์เพลย์บอยเช่นนี้ก็ช่วยอำพรางอดีตที่มืดมนกว่านั้นของเขา
มีรายงานว่า คิมเกี่ยวข้องในการวางแผนลอบวางระเบิดในพม่าในปี 1983 ที่ทำให้ชาวเกาหลีใต้เสียชีวิต 17 ราย ตลอดจนในเหตุระเบิดเครื่องบินโคเรียน แอร์ที่ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 115 คนเสียชีวิต
หลังจากครองอำนาจอย่างเป็นทางการแล้ว คิมส่งเสริมการเกี่ยวข้องกับโลกภายนอกอย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์ในเดือนมิถุนายน 2002 เมื่อเขาพบหารือกับคิมแดจุง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในขณะนั้น ที่กรุงเปียงยาง
ปลายปีเดียวกัน แมเดลีน อัลไบรท์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในยุคนั้น เยือนเปียงยาง โดยอาคันตุกะกล่าวถึงเจ้าบ้านว่า มีความรอบรู้เรื่องต่างๆ ดีมาก และ “ไม่ใช่คนที่หลงละเมอเพ้อพก”
คิมได้เดินทางเยือนจีนหลายรอบ และสนใจวิธีที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนปรับหลักการสังคมนิยมเข้ากับระบบเศรษฐกิจแบบตลาด ถึงขั้นเขาเคยทดลองโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดย่อมในช่วงต้นทศวรรษ 2000
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเปียงยางกับตะวันตกร้าวฉานหลังข้อตกลงปลดอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ ล่มในปี 2002 และ 7 ปีต่อมาเปียงยางถอนตัวจากการเจรจา 6 ฝ่าย พร้อมประกาศเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
สถานีโทรทัศน์ของทางการเปียงยางรายงานวันจันทร์ (19) ว่าคิม จองอิลเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ (17) ขณะอายุ 69 ปี