เอเอฟพี - ชาวรัสเซียกว่า 50,000 คนออกมาชุมนุมประท้วงผลการเลือกตั้งสกปรกในกรุงมอสโก วันนี้ (11) ขณะที่การชุมนุมลักษณะเดียวกันยังแผ่ลามไปทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งนับเป็นการแสดงออกครั้งใหญ่ถึงการต่อต้านนายกรัฐมนตรี วลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งครองอำนาจในรัสเซียมานานถึง 12 ปี
ผู้ประท้วงซึ่งเปล่งเสียงตะโกน “รัสเซียไม่เอาปูติน” เคลื่อนขบวนไปยังเกาะกลางแม่น้ำในกรุงมอสโก โดยประชาชนต่างโกรธแค้นเมื่อทราบข่าวลือว่าพรรคปูตินใช้วิธีสกปรกจนได้ชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา
ผลการเลือกตั้งดังกล่าวถือเป็นการชิมลาง ก่อนที่ปูตินจะกลับมาครองตำแหน่งสูงสุดในทำเนียบเครมลินอีกอย่างน้อย 12 ปี หลังจากที่ผลัดให้ เมดเวเดฟ ครองเก้าอี้ประธานาธิบดีแทนเพื่อคั่นเวลา
การชุมนุมประท้วงยังเกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกไกลและศูนย์กลางอุตสาหกรรมในไซบีเรียและอูราล อันเป็นสัญญาณว่า การกลับมาของ ปูติน ครั้งนี้คงไม่ราบรื่นเหมือนผลการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“วันนี้เรามีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างในประเทศ” แอนนา เบคเมนโตวา วัย 44 ปี กล่าว ขณะที่ผู้ประท้วงซึ่งผูกริบบิ้นสีขาวไว้กับแจ็กเก็ตเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหว ต่างร้องตะโกนว่า “ไม่เอารัฐตำรวจ”
“คนที่ฉันรู้จักไม่มีใครเลือกพรรคยูไนเต็ด รัสเซีย สักคน” เบคเมนโตวา กล่าวถึงพรรคของปูติน ซึ่งฝ่ายต่อต้านตราหน้าว่าเป็นเพียง “แก๊งฉ้อโกงและหัวขโมย”
เฮลิคอปเตอร์ตำรวจบินตรวจตราความสงบเรียบร้อยเหนือกรุงมอสโก ขณะที่เจ้าหน้าที่กว่า 50,000 นายลงพื้นที่ควบคุมการประท้วง ซึ่งมีขึ้นเพียง 6 วันหลังจากยูไนเต็ด รัสเซีย ชนะเลือกตั้ง และนับเป็นการแสดงออกซึ่งความไม่พอใจของประชาชนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย
ผลการเลือกตั้งและสัญญาณความอ่อนแอของเครมลินไม่เพียงทำให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งใหม่เท่านั้น แต่ยังขอให้เลิกใช้การเมืองแบบจัดฉากที่ ปูติน ริเริ่ม หลังขึ้นครองตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2000 ด้วย
ตำรวจรัสเซียระบุว่า มีผู้ร่วมประท้วงในกรุงมอสโกประมาณ 25,000 คน ขณะที่อีก 30 คนถูกจับกุมระหว่างการชุมนุมในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของทั้ง ปูติน และ เมดเวเดฟ
อย่างไรก็ดี ส.ส.ฝ่ายค้านและผู้จัดการประท้วงประเมินว่า น่าจะมีผู้ร่วมเดินขบวนในกรุงมอสโกราว 50,000-80,000 คน ขณะที่บางคนอ้างว่าชาวรัสเซียเกิน 100,000 ออกมาแสดงพลังต่อต้าน ซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อนในยุคสมัยของปูติน
ทั้งนี้ มีการเรียกร้องให้ประชาชนออกมาชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ หากผลการเลือกตั้งไม่เป็นโมฆะ
ฝ่ายต่อต้าน ปูติน ตีความเหตุประท้วงครั้งนี้ว่าเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลง ขณะที่แหล่งข่าวในเครมลินบอกกับเว็บไซต์ข่าว gazeta.ru ว่า ประธานาธิบดี ดมิตรี เมดเวเดฟ เป็นผู้ออกคำสั่งให้สื่อรายงานข่าวอย่างเป็นกลางมากที่สุด และให้ตำรวจกรุงมอสโกจัดการกับผู้ประท้วง “อย่างละมุนละม่อมที่สุด” ด้วย
ด้าน ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกของ ปูติน ระบุว่า นายกรัฐมนตรียังไม่มีความเห็นใดๆ ในขณะนี้