เอเอฟพี - คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก (เอสแคป) ของยูเอ็น เผย อุทกภัยร้ายแรงในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้สูญเสียการผลิตไปเป็นมูลค่า 6,300 ล้านดอลลาร์ นอกเหนือไปจากจากแรงกดดันอันมีสาเหตุจากปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยุโรป
เอสแคป แถลงว่า อุทกภัย ซึ่งส่งผลกระทบต่อกัมพูชา ลาว ฟิลิปปินส์ ไทย และ เวียดนาม ก่อให้เกิดภาวะช็อกของอุปทานครั้งใหญ่ และทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในภูมิภาคลดลงประมาณ 0.9%
ถ้อยแถลงดังกล่าวระบุว่า ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ดังนั้น วิกฤตน้ำท่วมจึงอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กทั่วโลกในช่วงต้นปี 2012 ได้
ส่วนภาคเกษตรของไทยก็ได้รับผลกระทบร้ายแรงจากน้ำท่วมเช่นกัน โดยผลผลิตข้าวในภูมิภาค 7.0% และทั่วโลกประมาณ 1.4% ได้รับความเสียหาย
หน่วยงานของยูเอ็นแห่งนี้ คาดว่า การเติบโตในประเทศกำลังพัฒนาของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะชะลอตัวลง 6.6% ในปี 2012 จากที่มีการประมาณการไว้ในปีนี้ราว 7.2%
นาเกช คูมาร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งเอสแคป กล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงเทพฯ ว่า “ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังเผชิญความท้าทายในการรับมือกับความถดถอยอย่างรุนแรงของสิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจโลก”
อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่า “แม้ว่าจะมีความตกต่ำ แต่แน่นอน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะยังมีพลังมากที่สุดในโลกต่อไป”
ส่วนเศรษฐกิจไทยนั้น คาดว่า จะกระเตื้องขึ้นจาก 2.0% ในปี 2011 เป็น 4.5% ในปีหน้า เนื่องจากการฟื้นตัวหลังน้ำลด ทว่า มหาอำนาจเอเชียอย่างจีนนั้น กลับโตช้าลงเหลือ 8.5% ในปี 2012 จาก 9.3% ในปีนี้
ทั้งนี้ อุทกภัยครั้งรุนแรงทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 1,000 ราย บ้านเรือน และความเป็นอยู่ของผู้คนหลายล้านครอบครัวถูกทำลาย
ยิ่งไปกว่านั้น เอสแคป ยังคาดว่า น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปีนี้จะทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง 1.3% ในปีนี้ ขณะที่ ลาว พม่า ฟิลิปปินส์ การเติบโตจะลดลง 0.3%
