เดลิเมล์ - เด็กชายชาวสหรัฐฯ วัย 2 ขวบหัวใจหยุดเต้นนาน 40 นาที ในทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว แต่เจ้าตัวก็ฟื้นคืนชีพอย่างน่าอัศจรรย์ และเวลานี้ก็สามารถวิ่งเล่นรอบบ้าน ยิ้มหัวเราะและทำทุกอย่างได้เหมือนกับเด็กทั่วไป
เวลานี้ คาเลบ ทีโอโดเรสคู จากเมืองฟีนิกซ์ มลรัฐแอริโซนา ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านแล้วหลังจากผ่านวินาทีชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่พวกคุณหมอยังคงพิศวงต่อการฟื้นคืนชีพอันน่าอัศจรรย์ของเขา
นายแพทย์คอเรย์ ฟิลพอต เวชบำบัดวิกฤตในเด็ก ณ ศูนย์การแพทย์แบนเนอร์ ธันเดอร์เบิร์ด ในเกลนเดล ให้สัมภาษณ์กับเอบีซีนิวส์ว่า “เขาตายตั้งแต่ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว” เขาเล่าถึงเหตุการณ์ที่นางมิฮาเอลา ทีโอโดเรสคู คุณแม่ของคาเลบ พบร่างไม่ไหวติงของลูกชายในสระว่ายน้ำกลางแจ้งภายในบ้านของครอบครัว “ตอนนั้นหัวใจเขาหยุดเต้น และเขาหยุดหายใจตั้งแต่ตอนมาถึงโรงพยาบาลแล้ว”
ด้าน นางมิฮาเอลากล่าวเสริมว่า “ฉันร้องหาแต่พระเจ้า ฉันตะโกนตัดพ้อไปว่าพระเจ้าไม่ควรพรากเขาไปจากฉัน” พร้อมเล่าต่อว่าตอนนั้นพยายามตะโกนขอความช่วยเหลือและเพื่อนบ้านรายหนึ่งก็เข้ามาและเริ่มปฏิบัติการช่วยชีวิตเบื้องต้น
ที่โรงพยาบาล คุณหมอฟิลพอตและทีมงานเร่งมือกู้ชีวิตเขา ทั้งนี้พวกเขาเตรียมให้ยาลดความดันโลหิตแต่ทางหัวหน้าทีมก็แสดงความกังวลว่ามันอาจก่อส่งผลกระทบทางสมองในระยะยาว ดังนั้นคณะแพทย์จึงตัดสินใจใช้วิธี therapeutic hypothermia (ลดอุณหภูมิกายต่ำ)
นายแพทย์ฟิลพอตบอกกับเอบีซีนิวส์ต่อว่า “วิธีลดอุณหภูมิกายต่ำช่วยลดอัตรากระบวนการสันดาปของร่างกายและในกรณีนี้คือในส่วนของสมอง” เขากล่าว “เราลดอุณหภูมิร่างกายเขาลงเหลือ 32 องศา เพื่อปกป้องสมองไม่ให้ได้รับความเสียหายเพิ่มเติม”
หลังจากนั้น 24 ชั่วโมง คณะแพทย์ก็เริ่มกระบวนการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายของเขาอีกครั้ง และระหว่างที่คณะแพทย์ค่อยๆให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายของ คาเลบ ได้ 4 วัน พวกเขาก็พบว่าสภาวะหัวใจของคนไข้ดีขึ้นและผ่านไป 5 วันหลังเข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาล คาเลบ ก็ฟื้นตัวเร็วอย่างน่าทึ่ง
นายแพทย์ฟิลพอตเล่าต่อว่า “เขาเริ่มขยับ จากนั้นความเคลื่อนไหวของเขาก็เป็นแบบมีจุดประสงค์มากขึ้น ต่อมาเขาก็ค่อยๆ ลืมตา เวลานี้เราบอกได้เพียงว่าเขาฟื้นตัวเร็วอย่างเหลือเชื่อเลย” ส่วนนายโอวี ทีโอโดเรสคู พ่อของคาเลบบอกกับสำนักข่าวเอบีซีว่า “หมอบอกกับเราว่าในรอบ 23 ปีที่เขาทำงานอยู่ในแผนกอภิบาลกุมาร พวกเขาไม่เคยเจอกรณีลักษณะนี้เลย”
