เอเอฟพี - รายงานเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของอดีตประธานาธิบดี อัลแบร์โต ฟูจิโมริ แห่งเปรู ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่า อดีตผู้นำซึ่งต้องคดีคอร์รัปชั่นรายนี้สมควรได้รับการอภัยโทษตามหลักมนุษยธรรมหรือไม่ วานนี้ (24)
คณะแพทย์ 8 คนซึ่งได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุขเปรูให้สรุปรายงานสุขภาพของอดีตประธานาธิบดี เปิดเผยว่า ฟูจิโมริ จัดเป็น “ผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรัง” แม้อาการของเขาจะอยู่ในขั้น “ทรงตัว” ก็ตาม
ฟูจิโมริ ซึ่งต้องโทษจำคุก 25 ปี ฐานละเมิดสิทธิมนุษยชน ป่วยเป็นมะเร็งที่ลิ้นมานานหลายปีแล้ว แต่ฝ่ายศัตรูของเขาอ้างว่า มีความพยายามแต่งเติมอาการป่วยของฟูจิโมริ ให้ร้ายแรงเกินจริง เพื่อให้เขาถูกปล่อยตัวจากเรือนจำและหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศได้
รายงานสุขภาพเมื่อเดือนตุลาคมซึ่งเพิ่งรั่วไหลถึงมือสื่อมวลชนสัปดาห์นี้ ระบุว่า มีโอกาสสูงมากที่ ฟูจิโมริ จะกลับไปเป็นมะเร็งอีก แม้จะทำการผ่าตัดมาแล้วถึง 4 ครั้งก็ตาม นอกจากนี้ยังพบถุงน้ำ (ซีสต์) บริเวณตับอ่อน, ความดันโลหิตสูง และอาการเครียดด้วย
เมื่อรายงานดังกล่าวถูกเผยแพร่ ผู้สนับสนุนฟูจิโมริจึงเรียกร้องให้รัฐบาลประธานาธิบดีออลลันตา ฮูมาลา คำนึงถึงหลักมนุษยธรรมและปล่อยตัวเขาเป็นอิสระก่อนกำหนด ส่วน เค็นยิ บุตรชายของฟูจิโมริ ซึ่งเป็น ส.ส.ก็แถลงว่า ครอบครัวของตนจะยื่นคำร้องขอลดหย่อนผ่อนโทษให้แก่บิดา
ฟูจิโมริ วัย 73 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเปรูระหว่างปี 1990-2000 ถูกตั้งข้อหาทุจริตและละเมิดสิทธิมนุษยชนจนต้องหนีไปลี้ภัยที่ญี่ปุ่น และยอมแฟกซ์จดหมายลาออกไปยังกรุงลิมาเมื่อปลายปี 2000
รัฐบาลญี่ปุ่นมอบสัญชาติแก่ฟูจิโมริ และแม้กรุงลิมาจะพยายามเรียกร้องให้โตเกียวส่งตัวเขากลับไปดำเนินคดีในเปรู แต่ก็ไม่เป็นผล
ฟูจิโมริถูกจับระหว่างเดินทางเยือนชิลีเมื่อปลายปี 2005 และถูกส่งตัวกลับเปรูเมื่อเดือนกันยายนปี 2007 เขาถูกตัดสินจำคุก 25 ปี ฐานส่วนพัวพันกับการตั้งหน่วยล่าสังหารศัตรูทางการเมือง