xs
xsm
sm
md
lg

แฉ‘ปูติน’เคยถูกสายลับสาวเจาะล้วงความลับส่วนตัว

เผยแพร่:   โดย: เรดิโอ ฟรี ยุโรป/เรดิโอ ลิเบอร์ตี

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com)

Putin’s red-hot dossier of liaisons
By By RFE/RL
08/11/2011

ความสัมพันธ์ระหว่างนายกรัฐมนตรี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กับ ลูย์ดมีลา ปูตินา ภริยาซึ่งใช้ชีวิตครองคู่กันมายาวนาน 28 ปีของเขา เป็นชีวิตรักตัวอย่างสำหรับยุคสมัย หรือว่าเป็นชีวิตคู่ครองที่เป็นฝันร้ายชวนสยองกันแน่ จากข้อมูลใหม่ๆ ที่เพิ่งมีการเปิดเผยออกมาเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ ปูติน ทำงานเป็นสายลับเคจีบีอยู่ในเยอรมันตะวันออก ดูจะบ่งบอกให้เห็นว่าน่าจะอยู่ตรงกลางๆ ระหว่างความเป็นไปได้สองทางนี้ ขณะที่ปูตินกำลังเตรียมตัวเพื่อเข้าแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในต้นปีหน้า ข้อมูลใหม่ๆ ที่เป็นการกล่าวหาอยู่กลายๆ ว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ตัวฉกาจ น่าที่จะเป็นผลบวกแก่เขามากกว่าเป็นผลลบ โดยจะยิ่งส่งเสริมภาพลักษณ์แห่งความเป็นหัวหน้าครอบครัวผู้แข็งแกร่งไม่ยอมอ่อนข้อใดๆ ตลอดจนเป็นนักรักผู้รุนแรงเร่าร้อน

ความสัมพันธ์ระหว่าง วลาดิมีร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ผู้ซึ่งน่าที่จะก้าวขึ้นครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัยหนึ่งในต้นปีหน้า กับ ลูย์ดมิลา ปูตินา (Lyudmila Putina) ภริยาที่ครองคู่กันมายาวนาน 28 ปีแล้วของเขา มักถูกวาดภาพออกมาเป็น 2 ทางซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทางหนึ่งคือเป็นชีวิตคู่ครองที่เป็นฝันร้ายชวนสยอง ส่วนอีกทางหนึ่งเป็นชีวิตรักตัวอย่างสำหรับยุคสมัย ขณะที่ความจริงอาจจะอยู่ตรงไหนสักแห่งระหว่างความเป็นไปได้ 2 ทางดังกล่าว แต่จากข้อมูลใหม่ๆ ที่เพิ่งถูกนำออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ ปูติน ทำงานเป็นสายลับเคจีบีอยู่ในเยอรมันตะวันออก บ่งชี้ให้เห็นว่าบุรุษผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำวังเครมลินในอนาคตผู้นี้ ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรนักหนากับเรื่องความกลมเกลียวปรองดองกันในชีวิตคู่

เอริช ชมิดท์-เอนโบม (Erich Schmidt-Eenboom) นักหนังสือพิมพ์และผู้เชี่ยวชาญด้านการข่าวกรองของเยอรมัน บอกว่าเขาได้สืบสาวตามพิสูจน์จนมั่นใจว่า เคยมีสายลับสาวชาวเยอรมันตะวันตกผู้หนึ่ง สามารถเจาะเข้าไปในครอบครัวของปูตินได้สำเร็จ ระหว่างที่ครอบครัวนี้พำนักอยู่ในเมืองเดรสเดน (Dresden) เยอรมนีตะวันออก เป็นเวลา 5 ปี สิ่งที่เธอค้นพบนะหรือ? ก็คือปูตินนั้นเป็นคนเจ้าชู้ตัวฉกาจ และเป็นคนนิสัยเลวชอบใช้ความรุนแรงทุบตีภริยาของเขาเป็นประจำ

ชมิดท์-เอนโบม เคยเขียนหนังสือและบทความจำนวนมากเกี่ยวกับองค์การข่าวกรองในต่างประเทศของเยอรมนี (Bundesnachrichtendienst สำนักงานข่าวกรองสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี) ที่นิยมเรียกขานตามอักษรย่อว่า เบเอ็นเด (BND) ในคราวนี้เขาบอกเล่าเรื่องราวที่สืบทราบมาว่า สายลับผู้นี้ ซึ่งเป็นหญิงสาววัยเยาว์ที่ปฏิบัติการภายใต้ชื่อว่า เลนเชน (Lenchen) หรือ เลนอชคา (Lenochka) ได้รับมอบหมายภารกิจให้ทำการขุดคุ้ยหาข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ทางการทหารและทางเศรษฐกิจของเคจีบีในบริเวณภาคใต้ของเยอรมนี

“แต่แล้วเธอก็กลายเป็นเพื่อนของ ลูย์ดมิลา ปูตินา ไปอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นคนสนิทสนมไว้วางใจได้ของเธอไป” เขาเล่าต่อ “ลูย์ดมิลาบอกกับเธอว่า วลาดิมีร์มักทุบตีเธอบ่อยๆ และคอยโกหกเธอเรื่อยมา รวมทั้งเรื่องที่เขาแอบนัดหมายพบปะกับผู้หญิงคนอื่นๆ”

เรื่องราวที่ ชมิดท์-เอนโบม นำออกมาเปิดเผยคราวนี้ ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ภาษาเยอรมัน “แบร์ลิเนอร์ ไซตุง” (Berliner Zeitung) เขาปฏิเสธข้อสันนิษฐานของใครต่อใครที่ว่า มีการเปิดข้อมูลข่าวสารเหล่านี้ให้เขารับรู้ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะดิสเครดิตปูติน ในขณะที่ปูตินกำลังเตรียมตัวก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีรัสเซียอีกสมัยหนึ่งในปีหน้า

นักหนังสือพิมพ์ผู้นี้ยืนยันว่า ครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องราวของ เลนเชน –ซึ่งยังเป็นที่รู้จักกันในฉายาว่า “Balcony” (เฉลียง หรือ หน้ามุข นั่นคือเป็นส่วนของอาคารที่ยื่นเด่นออกมาข้างหน้า –ผู้แปล) สืบเนื่องจากหน้าอกหน้าใจอันอวบอัดของเธอ—คือตอนที่เขาสนทนากับอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของ BND ผู้หนึ่งเมื่อตอนต้นปีนี้

“แน่นอนว่า ในฐานะที่เป็นนักหนังสือพิมพ์ ผมจำเป็นที่จะต้องแสวงหาแหล่งข่าวรายที่สองมายืนยันเรื่องนี้” เขากล่าว “อีกหลายอาทิตย์ต่อมา ผมก็พยายามจนประสบความสำเร็จได้พบกับสายข่าวผู้หนึ่งซึ่งอยู่ที่ Verfassungsschutz หรือสำนักงานเพื่อการพิทักษ์รัฐธรรมนูญของเยอรมนี ผู้ซึ่งก็มีข้อมูลข่าวสารเรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของเขา”

เขาบอกว่า เลนเชน เป็นชาวเยอรมันจากแถบบอลติก ซึ่งสามารถพูดภาษารัสเซียและภาษาเยอรมันได้อย่างคล่องแคล่วพอๆ กัน อันเป็นทักษะที่ทำให้เธอเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับการปฏิบัติงานของเธอในสำนักงานเคจีบีเล็กๆ ที่เมืองเดรสเดน โดยที่หน้าที่การงานหน้าฉากอย่างเป็นทางการของเธอนั้น เธอเป็นล่ามให้กองทหารภาคตะวันตก (Western Forces) ของสหภาพโซเวียต ซึ่งตั้งฐานอยู่ในเยอรมนีตะวันออก

**แข็งแกร่งไม่ยอมอ่อนข้อ**

ในที่สุดแล้ว เลนเชน ได้ขอให้หน่วยเหนือย้ายเธอออกมาจากการปฏิบัติงานในเดรสเดน ภายหลังที่ความสัมพันธ์อันโรแมนติกระหว่างเธอกับนายพันเอกเคจีบีที่เป็นหัวหน้าของสำนักงานแห่งนั้น ทำให้เธอตั้งครรภ์ และมีความรู้สึกอ่อนไหวต่อความเครียดทางจิตวิทยาจากการแอบสืบความลับเกี่ยวกับครอบครัวปูติน

หน่วยเหนือของเธอได้เรียกตัวเธอกลับมายังเยอรมนีตะวันตก ที่ซึ่งเธอได้รับการปรับเปลี่ยนอัตลักษณ์ใหม่ และออกจากการปฏิบัติงานสายลับ “เธอได้รับค่าชดเชยอย่างงดงามทีเดียว” ชมิดท์-เอนโบม บอก “เวลานี้เธอพำนักอาศัยและใช้ชีวิตอย่างไร้กังวลใดๆ อยู่ในภาคใต้ของเยอรมนี”

ข้อมูลใหม่ๆ เหล่านี้ดูไม่น่าที่จะสร้างรอยด่างพร้อยให้แก่ภาพลักษณ์ของปูตินภายในรัสเซียแต่อย่างใด เพราะแดนหมีขาวเป็นประเทศซึ่งถือว่าความประมาทพลั้งเผลอในเรื่องชีวิตสมรส ไม่ใช่เรื่องที่น่าสนใจอะไรและควรที่จะเป็นเรื่องส่วนตัวเท่านั้น

ถ้าหากมันจะมีผลอะไรขึ้นมาแล้ว ข้อมูลเหล่านี้ซึ่งให้ภาพของปูตินว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวผู้แข็งแกร่งไม่ยอมอ่อนข้อใดๆ ตลอดจนเป็นนักรักผู้รุนแรงเร่าร้อน มีแต่จะส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้นำคนนี้ ผู้ซึ่งนิตยสาร “ฟอร์บส์” (Forbes) ฉบับเร็วๆ นี้เพิ่งจัดอันดับให้เขาเป็นบุคคลผู้ทรงอำนาจมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก

ในช่วงปีหลังๆ มานี้ การปรากฏตัวในที่สาธารณะร่วมกันของ วลาดิมีร์ ปูติน และ ลูย์ดมิลา ปูตินา เป็นที่สิ่งเกิดขึ้นน้อยครั้งมาก จนมีบางคนเปรียบเปรยว่าพบเห็นได้ยากพอๆ กับการได้เจอ เยติ (yeti มนุษย์หิมะ) แห่งไซบีเรียทีเดียว ปูตินเองต้องคอยปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดอยู่เป็นระยะว่า เขากับ ลูยด์มิลา อดีตแอร์โฮสเตสแห่งสายการบินแอโรฟลอต (Aeroflot) แท้ที่จริงได้หย่าร้างกันแล้ว

นายกรัฐมนตรีวัย 59 ปีผู้นี้ –ผู้ซึ่งเป็นที่คาดหมายกันอย่างกว้างขวางว่าจะได้หวนกลับคืนมานั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกคำรบหนึ่งในปีหน้า หลังจากที่ได้จัดแจงเบียด ดิมิตริ เมดเวเดฟ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ให้หลุดพ้นทางไปแล้ว—ถูกเมาท์อยู่บ่อยๆ ว่ามีสายสัมพันธ์กับ อาลินา คาบาเยวา (Alina Kabayeva) อดีตนักกีฬายิมนาสติกโอลิมปิก และเป็นสมาชิกที่มีบทบาทอันแข็งขันคนหนึ่งอยู่ในสภาดูมาของรัสเซีย

**เดอะ ฟรีซเซอร์**

วังเครมลินนั้นมีความพยายามที่จะวาดภาพชีวิตสมรสของปูตินว่าช่างสดสวยหอมหวานดุจโรยด้วยดอกกุหลายอยู่เป็นระยะๆ โดยมีอยู่ครั้งหนึ่งถึงขนาดจัดสร้างเป็นภาพยนตร์ใช้ชื่อเรื่องว่า “The Kiss is Off the Record” เนื้อเรื่องเป็นการวาดภาพให้เห็นเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ในช่วงต้นๆ ของคู่ครองคู่นี้ และนำออกมาฉายเนื่องวันวันวาเลนไทน์ปี 2008

ทว่าช่วงขณะโรมานซ์เหล่านั้น ต้องถูกบดบังจนมิดสนิทจากช่วงเวลาที่คู่สมรสคู่นี้ซึ่งมีบุตรด้วยกัน 2 คนโดยเป็นบุตรสาวทั้งคู่ มักถูกจับได้บ่อยๆ ว่ากำลังอยู่ในขณะจิตแห่งความรู้สึกเงอะงะเคอะเขินต่อกัน หรือ ขณะจิตแห่งความเฉยชาต่อกัน

ลูย์ดมิลา ปูตินา ซึ่งปัจจุบันอายุ 53 ปี เป็นที่ทราบกันอย่างกว้างขวางว่าชอบเรียกสามีเธอว่า “ตู้แช่แข็ง” (the Freezer) สืบเนื่องจากบุคลิกภาพที่ไร้อารมณ์ของเขา ส่วนทางด้าน วลาดิมีร์ ปูติน ก็เคยออกปากพูดเหน็บแนมเอาไว้อย่างเจ็บว่า “ใครก็ตามที่สามารถทนอยู่กับลูย์ดมิลาได้ถึง 3 อาทิตย์ สมควรที่จะสร้างอนุสาวรีย์ให้”

ดมิตริ เปสคอฟ (Dmitry Peskov) โฆษกของปูตินแถลงว่า เขาไม่ขอออกความเห็นใดๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวเรื่องนี้ ขณะที่ผู้ทำหน้าที่โฆษกให้แก่ BND ก็เช่นกัน ไม่ยอมแถลงอะไรในเรื่องนี้ โดยบอกเพียงว่า “เราไม่ขอแสดงความเห็นในเรื่องเกี่ยวกับวิธีการของเราหรือการสืบสวนของเรา”

ชมิดท์-เอนโบม ชี้ว่า มีน้อยครั้งนักหนาที่สายลับของหน่วยข่าวกรองเยอรมัน สามารถแทรกซึมเข้าไปภายในโครงสร้างของเคจีบีได้ในระดับที่ เลนอชคา เคยเจาะเข้าไปในครอบครัวปูตินที่เมืองเดรสเดน โดยที่มีสายลับอีกเพียงผู้เดียว ซึ่งได้รับฉายาว่า “พันเอก วิกเตอร์” (Colonel Viktor) ที่ประสบความสำเร็จในทำนองเดียวกันในช่วงทศวรรษ 1980

รายงานทั้งหมดของ เลนอชคา ได้ถูกส่งต่อไปยัง สำนักงานเพื่อการพิทักษ์รัฐธรรมนูญของเยอรมนี ตลอดจนบรรดาชาติพันธมิตรนาโต้ของเยอรมนี อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ปูตินมีพฤติการณ์ที่ผิดพลาดบกพร่องใดๆ ก็ดี ชมิดท์-เอนโบมยืนยันว่า ในแฟ้มเรื่องราวของผู้นำรัสเซียผู้นี้แทบไม่มีอะไรที่น่าสนใจสำหรับวงการข่าวกรองฝ่ายตะวันตกเอาเลย –อย่างน้อยที่สุด ก็ต้องรอจนกระทั่งเขาก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีของแดนหมีขาวนั่นแหละ

“แฟ้มข้อมูลเกี่ยวกับปูตินที่สืบมาได้ในช่วงเวลานั้น คงจะถูกทำลายทิ้งไปแล้ว ถ้าหากเขาไม่ได้สร้างวิถีชีวิตทางการเมืองอันน่าปวดเศียรเวียนเกล้าขึ้นมาอย่างฉับพลันด้วยตัวของเขาเอง” เขากล่าว “หลังจากนั้นแล้ว รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทุกๆ อย่างเกี่ยวกับชีวิตของเขาก็ล้วนแต่กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจขึ้นมาอย่างฉับพลัน”

(รายงานนี้มาจาก เรดิโอ ฟรี ยุโรป/เรดิโอ ลิเบอร์ตี Radio Free Europe/Radio Liberty หรือ RFE/RL)

เรดิโอ ฟรี ยุโรป/เรดิโอ ลิเบอร์ตี เป็นกิจการกระจายเสียงที่ได้รับเงินทุนจากรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อเสนอข่าวสารข้อมูลและบทวิเคราะห์ไปยังประเทศต่างๆ ในยุโรปตะวันออก, เอเชียกลาง, และตะวันออกกลาง
กำลังโหลดความคิดเห็น