นายกฯกรีซแถลงลาออก-คาด ปธ.สภารักษาการแทน

ซีเอ็นเอ็น/เอเจนซี - นายกรัฐมนตรีกรีซ จอร์จ ปาปันเดรอู ยื่นใบลาออกต่อประธานาธิบดีของประเทศในวันพุธ (9) ตามหลังการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วเสร็จ โดยที่มีข่าวลือว่าผู้ถูกเสนอให้เข้ามารักษาการณ์เก้าอี้ผู้นำชั่วคราว คือ ประธานรัฐสภา

ในถ้อยแถลงถึงการลาออกผ่านสถานีโทรทัศน์ ก่อนเดินทางไปยังทำเนียบประธานาธิบดีเพื่อยื่นใบลาออกอย่างเป็นทางการต่อประธานาธิบดี คาโรลอส ปาปูลิอัส นายกรัฐมนตรีปาปันเดรอู อวยพรให้ผู้นำคนใหม่ของประเทศประสบความสำเร็จและประกาศว่ากรีซไดรอดพ้นจากภาวะล้มละลายแล้ว

เขายังเชื่อมั่นด้วยว่า รัฐบาลใหม่จะได้รับความเห็นชอบแพกเกจเงินกู้ช่วยเหลือฉุกเฉินของอียูมูลค่า 130,000 ล้านยูโรและสถานภาพสมาชิกของกลุ่มยูโรโซนจะมีความมั่นคงยิ่งขึ้นแม้กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตหนี้สิน

“ผมรู้สึกภูมิใจ แม้ต้องเจอความยุ่งยาก แต่เราก็หลุดพ้นการล้มละลายและมั่นใจว่าประเทศสามารถยืนได้ด้วยขาของตนเอง” เขากล่าว “ผมขออวยพรให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ประสบความสำเร็จ ผมจะสนับสนุนความพยายามใหม่อย่างเต็มที่ วันนี้แม้ความต่างทางการเมืองและสังคมยังคงมีอยู่ แต่เราก็ได้ปลีกตัวออกจากความขัดแย้งและความไม่ลงรอยแล้ว”

การลาออกมีขึ้น 1 วันหลังจากนายกรฐมนตรีรายนี้แสดงความหวังในทางบวกต่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ท่ามกลางการหารือที่เต็มไปด้วยขวางหนามระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้าน

ปาปันเดรอู และ อันโตนิส ซามาราส ผู้นำฝ่ายค้านเจรจากันอย่างเคร่งเครียดมาหลายวัน ในประเด็นว่าใครจะเข้ามาเป็นผู้นำรัฐบาลใหม่เพื่อนำพาประเทศไปสู่การเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ หลัง ปาปันเดรอู ประกาศจะยอมลาออกจากตำแหน่ง เปิดทางตั้งรัฐบาลผสมแห่งชาติสำหรับอนุมัติมาตรการความช่วยเหลือของยูโรโซนและจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด

มีข่าวลือเกี่ยวกับบุคคลที่เป็นตัวเต็งออกมาต่างๆ นานา ในนั้นรวมไปถึง ลูคิส ปาปาเดมอส อดีตรองประธานธนาคารกลางยุโรปและอดีตผู้ว่าธนาคารกลางกรีซ อย่างไรก็ตามล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวจากสองพรรคใหญ่บอกว่าผู้ถูกเลือก คือ ฟิลิปปอส เปตซัลนิคอส ประธานรัฐสภา ยกเว้นแต่ว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงในนาทีสุดท้าย

“เราเห็นพ้องกันเกี่ยวกับ เปตซัลนิคอส แต่สิ่งต่างๆสามารถเปลี่ยนแปลงได้ระหว่างตอนนี้และเมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางไปพบประธานาธิบดี” แหล่งข่าวบอก

ความยุ่งเหยิงทางการเมืองในกรีซ ก่อแรงสั่นสะเทือนไปยังตลาดทุนโลก โดยนักลงทุนกังวลว่าข้อตกลงช่วยเหลือรอบใหม่ที่เหล่าผู้นำยุโรปอนุมัติเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งมาพร้อมๆ กับมาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวดยิ่งขึ้นอาจไม่ได้รับการสนับสนุนจากเอเธนส์