บีบีซีนิวส์ - เกิดพายุหิมะพัดถล่มพื้นที่บริเวณชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯเร็วกว่าปกติในปีนี้ โดยในบางพื้นที่เช่นรัฐนิวเจอร์ซีย์และแมสซาชูเซตส์มีหิมะตกหนาถึง 15 นิ้ว
สำนักงานบริการด้านภูมิอากาศแห่งชาติสหรัฐฯ(NWS)ออกประกาศเตือนภัยพายุหิมะตั้งแต่วันเสาร์(29)จนถึงวันอาทิตย์(30) พร้อมระบุว่า การเดินทางในช่วงนี้อาจมีอันตราย
ความรุนแรงของพายุหิมะยังส่งผลให้ประชาชนราว 2.2 ล้านคนในรัฐแมริแลนด์และแมสซาชูเซตส์ประสบปัญหาขาดแคลนกระแสไฟฟ้า
จากสถิติเมื่อปี 1979 เขตนิวอิงแลนด์ของสหรัฐฯเคยมีหิมะตกหนักถึง 7.5 นิ้วในเดือนตุลาคม
ทั้งนี้ คาดว่าความกดอากาศต่ำจากชายฝั่งแอตแลนติกตอนกลางจะส่งผลให้มีหิมะตกเพิ่มขึ้น ระหว่างที่เคลื่อนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ สำนักงานบริการด้านภูมิอากาศแห่งชาติ ระบุ
เขตเบิร์กเชียร์สของรัฐแมสซาชูเซตส์, ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐคอนเน็คทิคัต และตอนใต้ของรัฐนิวแฮมป์เชียร์ คาดว่าจะมีหิมะตกหนักมากที่สุด
"หิมะที่ตกจะมีความชื้นสูงและจับตัวเป็นก้อน ไม่ใช่หิมะที่แห้งและร่วนตามปกติ" คริส วัคคาโร โฆษกสำนักงานบริการด้านภูมิอากาศแห่งชาติ เผย
กระแสลมบริเวณชายฝั่งอาจมีความเร็วถึง 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะส่งผลให้เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย
เมืองเวสต์มิลฟอร์ดในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งอยู่ห่างจากนครนิวยอร์กไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 85 กิโลเมตร มีหิมะตกหนาประมาณ 15.5 นิ้ว ขณะที่เมืองเพลนฟิลด์ในรัฐแมสซาชูเซตส์มีหิมะตกราว 14.3 นิ้ว
ส่วนที่นครนิวยอร์ก ปริมาณหิมะในเดือนตุลาคมนี้เพิ่งทุบสถิติใหม่ อยู่ที่ 1.3 นิ้วบริเวณเซ็นทรัลพาร์ค
สนามบินเนวาร์กในรัฐนิวเจอร์ซีย์ก็ต้องเผชิญทั้งหิมะและฝนตกหนัก จนสายการบินต่างๆต้องเลื่อนเที่ยวบินออกไปเป็นจำนวนมาก ขณะที่เที่ยวบินสู่สนามบินนานาชาติ จอห์น เอฟ เคนเนดี, สนามบินลาการ์เดีย และสนามบินในฟิลาเดลเฟีย ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกเดินทางจนถึงช่วงบ่าย เนื่องจากฝนและหิมะที่ตกหนักในนครนิวยอร์ก