เอเจนซีส์ - เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมากขนาด 7.2 ถล่มภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีในวันนี้ (23) ทำให้น่าจะมีผู้เสียชีวิตถึง 1,000 คน โดยที่มีอาคารหลายสิบหลังพังทลายลงมา
พวกเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินกำลังพยายามช่วยชีวิตคนจำนวนมากซึ่งติดอยู่ใต้ซากอาคารที่ถล่มลงมาในเมืองแวน (Van) และเขตต่างๆ ที่อยู่รายรอยฝั่งทะเลสาบแวน ใกล้ๆ ชายแดนของตุรกีที่ติดต่อกับอิหร่าน
“เราได้ยินเสียงร้องและเสียงครวญครางจากข้างใต้กองอิฐ เรากำลังรอทีมช่วยชีวิต” ฮาลิล เซลิค หนุ่มผู้หนึ่งซึ่งพำนักอาศัยอยู่บริเวณใจกลางเมืองแวน บอกกับผู้สื่อข่าว ขณะที่เขายืนอยู่ข้างๆ กองซากปรักหักพังที่เคยเป็นอาคารซึ่งถล่มลงมาต่อหน้าต่อตาเขา
“ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก แผ่นดินไหวฉีกตึกหลังนี้ต่อหน้าต่อตาผมเลย ทุกๆ คนที่ยืนอยู่แถวนี้ พวกเราต่างวิ่งเข้าไปในตึก และช่วยคนเจ็บออกจากกองอิฐได้ 2 คน”
ทางด้านสถานสังเกตการณ์และสถาบันวิจัยแผ่นดินไหว คานดิลลี ของตุรกี แถลงว่า แผ่นดินไหวซึ่งมีความรุนแรงระดับ 7.2 คราวนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.41 น. เวลามาตรฐานกรีนิช (ตรงกับ 17.41 น.เวลาเมืองไทย) โดยที่ศูนย์กลางอยู่ลึกลงจากพื้นดินเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น
ขณะที่รองนายกรัฐมนตรี เบซีร์ อาตาเลย์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ในเมืองแวน มีอาคารพังลงมาประมาณ 10 หลัง ส่วนในเขตเออร์ซิส ซึ่งอยู่ใกล้เคียงมีราว 25-30 หลังทีเดียว
“เราประมาณการว่ามีอาคารราว 1,000 หลังได้รับความเสียหาย และเราประมาณการว่ามีการเสียชีวิตหลายร้อยคน อาจจะอยู่ระหว่าง 500 ถึง 1,000 คน” มุสตาฟา เออร์ดิค ผู้จัดการใหญ่สถานสังเกตการณ์ คานดิลลี กล่าวในที่ประชุมแถลงข่าว
สำนักข่าวซีฮานรายงานว่า มีศพผู้เสียชีวิตกว่า 50 ศพแล้วถูกลำเลียงไปไว้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเขตเออร์ซิส
สำหรับนายกรัฐมนตรี เทย์ยิป เออร์โดแกน กำลังอยู่ระหว่างเดินทางไปเมืองแวน และคาดหมายกันว่าจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีในตอนเช้าวันจันทร์ (24)
