เอเอฟพี - สายการบินแควนตัส ซึ่งมุ่งหน้าสู่นครซิดนีย์ ต้องวกกลับสนามบินสุวรรณภูมิโดยด่วน หลังเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นกลางอากาศ สายการบินเผยวันนี้ (17) ขณะที่การประท้วงของพนักงานแควนตัส ก็ทำให้เครื่องบินอีก 5 ลำ ไม่สามารถขึ้นบินได้
แควนตัส ยังพยายามอธิบายเหตุผลที่ปล่อยให้เด็กชายอายุเพียง 11 ปี เดินทางโดยไม่มีผู้ปกครองดูแล
แควนตัส ระบุว่า เที่ยวบินที่ QF002 ซึ่งออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อไปยังนครซิดนีย์ วานนี้ (16) ต้องหันหัวกลับกรุงเทพมหานคร หลังเทกออฟไปได้เพียง 1 ชั่วโมง เนื่องจากเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น และเครื่องบินมีอาการสั่นจนผู้โดยสารรู้สึกได้
“มีรายงานว่า เกิดเสียงระเบิดขึ้นบนเครื่องบิน” โฆษกหญิงของ แควนตัส เผย พร้อมระบุว่า ทีมวิศวกรพบสาเหตุของความผิดปกติที่เกิดกับเครื่องยนต์โรลสรอยซ์ อาร์บี 211 แล้ว
เครื่องโบอิ้ง 747-400 นำผู้โดยสาร 356 คน เดินทางกลับถึงกรุงเทพมหานครโดยปลอดภัย
“มีประกายไฟสีขาวพุ่งออกมาจากเครื่องยนต์ จากนั้นพนักงานก็มาแจ้งว่าเกิดอะไรขึ้น และบอกว่าได้ดับเครื่องยนต์แล้ว จากนั้นเราก็เดินทางกลับมากรุงเทพฯ” ผู้โดยสารคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ แมคควอรี เรดิโอ
เหตุขัดข้องดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่เครื่องบิน 5 ลำของแควนตัส ต้องหยุดบินเป็นเวลา 1 เดือน และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินราว 400 เที่ยว หรือกว่า 60,000 ที่นั่ง เนื่องจากวิศวกรซึ่งทำหน้าที่ตรวจเช็คสภาพเครื่องพากันหยุดงานประท้วง
แควนตัส แถลงว่า การประท้วงของสหภาพแรงงานยังกระทบต่อผู้โดยสารที่จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า เนื่องจากพนักงานยืนกรานให้สายการบินปรับขึ้นเงินเดือน และรับประกันความมั่นคงในหน้าที่การงาน หลังจากแควนตัสหันมาเน้นตลาดการบินในเอเชีย
นายกรัฐมนตรี จูเลีย กิลลาร์ด เรียกร้องให้สายการบินและพนักงานเร่งหาทางประนีประนอม และชี้ว่ายังเร็วเกินไปที่รัฐบาลจะเข้าไปแทรกแซง ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้หากข้อพิพาทดังกล่าวจะกระเทือนถึงความมั่นคงของประเทศ
แควนตัส ยังยอมรับด้วยว่า เอกสารของเด็กชายวัย 11 ปี ที่เดินทางจากเมลเบิร์นไปโฮบาร์ตโดยไม่มีผู้ปกครองเมื่อเดือนที่แล้ว ได้สูญหายไป
“ขณะที่พนักงานนำตัวผู้เยาว์ลงจากเครื่องบิน เอกสารการเดินทางของเขาได้สูญหายไปแล้วระหว่างทาง” แควนตัส ระบุในถ้อยแถลง
“นี่เป็นความผิดพลาด ซึ่งแควนตัสก็ได้ขออภัยไปยังผู้โดยสารแล้ว แต่เด็กคนนั้นก็ไม่ได้หายไปไหน”
เลียนน์ เดคลีวา มารดาของเด็กชายให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ ว่า พนักงานสายการบินแจ้งกับเธอว่าไม่มีเอกสารใดๆ ที่ต้องเซ็นเพื่อขอรับตัวเด็ก และพวกเขาก็ไม่ทราบด้วยว่า ใครเป็นผู้ที่มีสิทธิ์รับเด็กคนนี้ไป
“ฉันเพียงแสดงบัตรประชาชน จากนั้นพวกเขาก็บอกให้ฉันพาลูกกลับได้เลย” เดคลีวา กล่าว
“แต่ถ้าเป็นรถไฟ จะต้องมีการกักตัวเขาไว้ก่อนแน่ และฉันก็อาจไม่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อเขาเลยด้วยซ้ำ”