เอเจนซี - ผู้นำมุสลิมนิกายซุนนีในซีเรีย ขู่จะส่งมือระเบิดพลีชีพเข้าโจมตีสหรัฐฯและยุโรป หากโลกตะวันตกส่งทหารเข้าแทรกแซงการประท้วงในซีเรีย
มุฟตี อะห์มัด ฮัสซูน ผู้นำมุสลิมซีเรีย ซึ่งบุตรชายของเขาเพิ่งถูกสังหารในจังหวัดอิดลิบไปเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ฝากคำเตือนไปยังมหาอำนาจตะวันตก ระหว่างเข้าพบคณะผู้แทนจากเลบานอน เมื่อค่ำวันอาทิตย์ (9)
“ผมขอฝากไปถึงยุโรปและอเมริกา ว่า เราจะใช้มือระเบิดพลีชีพซึ่งซุกซ่อนตัวอยู่ในประเทศของพวกคุณเรียบร้อยแล้ว หากพวกคุณโจมตีซีเรียหรือเลบานอน” สำนักข่าว อัลจาซีรา เผยแพร่ถ้อยแถลงของ ฮัสซูน
“จากวันนี้เป็นต้นไป เราจะใช้วิธี ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” เขากล่าว
สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป รุมประณามประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วงตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา พร้อมคว่ำบาตรบริษัทและน้ำมันที่ส่งออกจากซีเรีย ตลอดจนผลักดันให้องค์การสหประชาชาติช่วยกดดันกรุงดามัสกัสอีกทางหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีประเทศใดที่เสนอให้ใช้การแทรกแซงทางทหาร เหมือนเช่นที่ นาโต เคยใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศสนับสนุนกบฏลิเบียโค่นล้มพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี
องค์การสหประชาชาติ ระบุว่า การปราบปรามผู้ประท้วงในซีเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2,900 ราย ขณะที่กรุงดามัสกัส แย้งว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือกลุ่มติดอาวุธที่ต่างชาติคอยหนุนหลัง และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของซีเรียก็เสียชีวิตไปไม่น้อยกว่า 1,100 นาย
การสังหารบุตรชายของ ฮัสซูน นับเป็นเหตุโจมตีครั้งแรกที่พุ่งเป้าไปยังผู้นำศาสนาของรัฐบาลซีเรีย โดย ฮัสซูน ผู้นี้เลือกเข้าข้าง อัสซาด มาโดยตลอด แม้มุสลิมซุนนีส่วนใหญ่ในประเทศจะไม่พอใจ อัสซาด และกลุ่มชีอะห์อลาวียะห์ (Alawites) ซึ่งมีอิทธิพลในซีเรียมานานหลายสิบปีก็ตาม
มุฟตี อะห์มัด ฮัสซูน ผู้นำมุสลิมซีเรีย ซึ่งบุตรชายของเขาเพิ่งถูกสังหารในจังหวัดอิดลิบไปเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ฝากคำเตือนไปยังมหาอำนาจตะวันตก ระหว่างเข้าพบคณะผู้แทนจากเลบานอน เมื่อค่ำวันอาทิตย์ (9)
“ผมขอฝากไปถึงยุโรปและอเมริกา ว่า เราจะใช้มือระเบิดพลีชีพซึ่งซุกซ่อนตัวอยู่ในประเทศของพวกคุณเรียบร้อยแล้ว หากพวกคุณโจมตีซีเรียหรือเลบานอน” สำนักข่าว อัลจาซีรา เผยแพร่ถ้อยแถลงของ ฮัสซูน
“จากวันนี้เป็นต้นไป เราจะใช้วิธี ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” เขากล่าว
สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป รุมประณามประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วงตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา พร้อมคว่ำบาตรบริษัทและน้ำมันที่ส่งออกจากซีเรีย ตลอดจนผลักดันให้องค์การสหประชาชาติช่วยกดดันกรุงดามัสกัสอีกทางหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีประเทศใดที่เสนอให้ใช้การแทรกแซงทางทหาร เหมือนเช่นที่ นาโต เคยใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศสนับสนุนกบฏลิเบียโค่นล้มพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี
องค์การสหประชาชาติ ระบุว่า การปราบปรามผู้ประท้วงในซีเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2,900 ราย ขณะที่กรุงดามัสกัส แย้งว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือกลุ่มติดอาวุธที่ต่างชาติคอยหนุนหลัง และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของซีเรียก็เสียชีวิตไปไม่น้อยกว่า 1,100 นาย
การสังหารบุตรชายของ ฮัสซูน นับเป็นเหตุโจมตีครั้งแรกที่พุ่งเป้าไปยังผู้นำศาสนาของรัฐบาลซีเรีย โดย ฮัสซูน ผู้นี้เลือกเข้าข้าง อัสซาด มาโดยตลอด แม้มุสลิมซุนนีส่วนใหญ่ในประเทศจะไม่พอใจ อัสซาด และกลุ่มชีอะห์อลาวียะห์ (Alawites) ซึ่งมีอิทธิพลในซีเรียมานานหลายสิบปีก็ตาม