เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นแรงวานนี้ (10) จากเหตุนัดหยุดงานในคูเวต ชาติผู้ส่งออกพลังงานรายใหญ่ รวมถึงกรณีฝรั่งเศสและเยอรมนีลั่นหาทางจัดการวิกฤตหนี้ยูโรโซนภายในเดือนนี้ โดยปัจจัยดังกล่าวยังช่วยให้วอลล์สตรีทพุ่งทะยานเช่นกัน
ประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศสและนางแองเจลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ให้คำมั่นเมื่อวันอาทิตย์ (9) จะมีมาตรการรับมือระยะยาวที่ครอบคลุมก่อนสิ้นเดือนนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตสินเชื่อตึงตัว ซึ่งฉุดลากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภันฑ์มานานหลายเดือน
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากความกังวลทางอุปทาน เมื่อพนักงานศุลกากร 3,000 คนประท้วงขอขึ้นค่าแรง จนกระทบต่อการส่งออกพลังงานของประเทศ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 2.43 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 3.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้าน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (10) พุ่งทะยานอย่างแรง หลังเยอรมนีและฝรั่งเศสในสัญญาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ในการหาแนวทางที่มั่นคงสำหรับจัดการวิกฤตหนี้ยูโรโซนและยันเห็นพ้องตรงกันในแผนการเพิ่มทุนแบงก์ยุโรป
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 330.06 จุด (2.97 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,433.18 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 86.70 จุด (3.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,566.05 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 39.43 จุด (3.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,194.89 จุด
ซามีร์ ซามานา ที่ปรึกษาจากเวลล์ส ฟาร์โก ให้ความเห็นว่าตลาดหุ้นปิดบวกหลังจากผู้นำรัฐบาลเยอรมนีและฝรั่งเศสบอกว่ามีความคืบหน้าในแผนเพิ่มทุนธนาคารในช่วงสิ้นเดือนนี้
