เอเอฟพี - ราคาน้ำมันพุ่งแรงสองวันติดวานนี้ (6) หลังธนาคารกลางยุโรปแถลงมาตรการช่วยเหล่าธนาคารที่ขาดสภาพคล่อง คลี่คลายความกังวลต่อวิกฤตหนี้ยูโรโซน ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง ในความมั่นใจว่าเหล่าแบงก์ของสหรัฐฯ จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้สินในยุโรป
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 2.91 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ ปิดที่ 105.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
หลังจากเปิดตลาดอย่างระมัดระวัง ราคาน้ำมันกระโจนขึ้นอย่างแรงหลัง ฌอง โคลด ตริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แถลงมาตรการต่างๆ เพื่อสนับสนุนเหล่าธนาคารในยูโรโซนซึ่งกำลังถูกกดดันจากวิกฤตหนี้สาธารณะในกรีซ ไอร์แลนด์และโปรตุเกส
ทั้งนี้ อีซีบี เสนอมาตรการใหม่ระยะยาว 2 แนวทางคือให้เครดิตธนาคารกู้ได้อย่างไม่จำกัดและให้คำมั่นเข้าซื้อตราสารหนี้ธนาคารที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันกว่า 4 หมื่นล้านยูโร โดยจะเริ่มในเดือนพฤศจิกายนนี้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ (6) ขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เหตุได้แรงหนุนจากข้อมูลค้าปลีกและความเชื่อมั่นว่าธนาคารยักษ์ใหญ่ของอเมริกาจะไม่โดนผลกระทบจากวิกฤตหนี้ที่อาจลุกลามจากยูโรโซน
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 183.38 จุด (1.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,123.33 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 46.31 จุด (1.88 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,506.82 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 20.94 จุด (1.83 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,164.97 จุด
ความเคลื่อนไหวทางในบวกของวอลล์สตรีท มีขึ้นตามแรงฉุดของหุ้นกลุ่มธนาคาร จากความเชื่อมั่นว่าธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ จะรอดพ้นจากผลกระทบของวิกฤตหนี้ยูโรโซน โดยหุ้นของแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้นถึงร้อยละ 8.8 ซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 และ เจ.พี.มอร์แกน เชส เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0