เอเอฟพี - บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ มีแผนจะลดการส่งออกรถยนต์ลงประมาณครึ่งหนึ่งภายในทศวรรษหน้า เพื่อรองรับผลกระทบจากค่าเงินเยนที่แข็งตัวอย่างต่อเนื่อง บทสัมภาษณ์ประธานบริษัทซึ่งเผยแพร่วันนี้ (5) ระบุ
ทากาโนบุ อิโตะ ประธานบริหารและซีอีโอฮอนด้า เผยด้วยว่า ในระยะสั้นบริษัทจะมุ่งผลิตรถยนต์ขนาดเล็กเพื่อกระตุ้นยอดขายในประเทศเป็นหลัก
“จากผลกระทบของค่าเงินเยน บริษัทจึงเล็งเห็นแล้วว่าญี่ปุ่นไม่อาจเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์ของโลกได้อีกต่อไป” อิโตะให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุน
“ปัจจุบันฮอนด้าส่งออกรถยนต์ประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ของการผลิตภายในประเทศ แต่การเคลื่อนไหวของค่าเงินทำให้การจำหน่ายรถยนต์ในต่างประเทศยากลำบากขึ้น”
“เราจะส่งออกรถยนต์ต่อไปเรื่อยๆ แต่จะไม่เกิน 10-20 เปอร์เซ็นต์ของกำลังผลิตภายในประเทศ”
เงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่น่าเชื่อถือมากที่สุดประเภทหนึ่งยังแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลต่อวิกฤตหนี้สินในยุโรปและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว จึงหันมาทุ่มซื้อเงินเยนเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
แม้กรุงโตเกียวจะพยายามเข้าแทรกแซงตลาดการเงิน ทว่าค่าเงินเยนก็ยังทะยานสูงขึ้นแตะระดับ 75.95 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และในสัปดาห์นี้ก็ทำสถิติแข็งค่าที่สุดในรอบ 10 ปีเมื่อเทียบกับเงินยูโร
ทั้งนี้ ฮอนด้ามีนโยบายส่งเสริมการผลิตและจำหน่ายภายในประเทศ ควบคู่กับการขยายธุรกิจในต่างแดน
อิโตะเผยว่า ฮอนด้าจะพยายามสร้างสัดส่วนที่สมดุลระหว่างการผลิตในประเทศและยอดจำหน่ายต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งตลาดอเมริกาเหนือ, จีน, เอเชีย, อเมริกาใต้ และยุโรป
เขาย้ำด้วยว่า ฮอนด้าจำเป็นต้องรักษาฐานการผลิตในญี่ปุ่น และส่งเสริมการขายในประเทศเพื่อผลิตรถยนต์ให้ได้ประมาณ 1 ล้านคันต่อปี แม้ตลาดรถยนต์ญี่ปุ่นจะมีการแข่งขันสูงมากก็ตาม