เอเอฟพี - อะแมนดา น็อกซ์ นักศึกษาสาวชาวสหรัฐฯ แถลงคำอุทธรณ์ต่อศาลอิตาลี ด้วยการร้องขอความเมตตาปรานี วันนี้ (3) ขณะที่คณะลูกขุนเตรียมพิจารณาคำพิพากษาของศาลชั้นต้น จากคดีฆาตกรรมและการทำร้ายร่างกายทางเพศ ซึ่งนักศึกษาสาวชาวอังกฤษรายหนึ่งถูกข่มขืนและฆ่าปาดคอ ในเมืองเปรูจา เมื่อปี 2007
“ฉันไม่ได้ฆ่า ฉันไม่ได้ข่มขืน ฉันไม่ได้ขโมย ฉันไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยซ้ำ” อะแมนดา น็อกซ์ ให้การต่อคณะลูกขุนในห้องพิจารณาคดี “ฉันกำลังชดใช้อาชญากรรมที่ฉันไม่ได้ก่อ ด้วยชีวิต”
“ฉันอยากกลับบ้าน ฉันต้องการชีวิตของฉันคืน” อะแมนดา น็อกซ์ พูดสะดุดเป็นช่วงๆ ขณะที่ต้องหยุด เพื่อระงับอารมณ์
น็อกซ์ เอ่ยถึง เมเรดิธ เคอร์เชอร์ เหยื่อฆาตกรรมคดีนี้ ในฐานะ “เพื่อน” หลังจากเดินก้มหน้าก้มตาเข้ามายังห้องพิจารณาคดี ขณะที่ช่างภาพ และกลุ่มผู้สนับสนุน เข้าไปรอรับฟังคำแถลงของเธอภายในศาลอุทธรณ์วันสุดท้ายกันแน่นขนัด
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2007 ร่างไร้วิญญาณของ เคอร์เชอร์ นักศึกษาชาวอังกฤษวัย 21 ปี ถูกพบในสภาพเกือบเปลือย ภายในห้องนอนบ้านพักที่เธออยู่ร่วมกับน็อกซ์ ที่เมืองเปรูจา ศพของเธอนอนจมกองเลือด ตามลำตัวมีรอยฟกช้ำ และบาดแผลจากมีดอยู่หลายแห่ง ยิ่งไปกว่านั้น ตำรวจฝ่ายสืบสวนยังพบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายทางเพศ
รัฟฟาเอล โซลเลซิโต ผู้ต้องหาร่วมในคดีนี้อีกรายหนึ่ง แถลงคำอุทธรณ์ในวันเดียวกันนี้ว่า “ผมไม่เคยทำร้ายใครเลยในชีวิต ข้อกล่าวหาพวกนี้มันบ้าบอสิ้นดี” อนึ่ง โซลเลซิโต เป็นแฟนหนุ่มของ อะแมนดา น็อกซ์ ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุฆาตกรรม
ผู้พิพากษา เคลาดิโอ ปรัตติลโล เฮลล์มันน์ ประกาศว่า การพิจารณาคำพิพากษาอาจสิ้นเสร็จหลังเวลา 20.00 น.(ตรงกับ 01.00 น.วันอังคารที่ 4 ตามเวลาประเทศไทย) ภายใต้ระบบศาลอิตาลี คณะลูกขุน 8 ราย ซึ่งรวมถึงตัวผู้พิพากษาเฮลล์มันน์ จะพิจารณาคดีร่วมกับผู้พิพากษาอีกท่านหนึ่ง และคณะลูกขุนจากสาธารณชนอีก 6 ราย
ก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นอิตาลีพิพากษาลงโทษจำคุก อะแมนดา น็อกซ์ 26 ปี และ รัฟฟาเอล โซลเลซิโต 25 ปี โดยคณะอัยการได้ร้องให้เพิ่มโทษผู้ต้องหาทั้งสองเป็นจำคุกตลอดชีวิต ระหว่างกระบวนการของศาลอุทธรณ์ ซึ่งเริ่มต้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2010
นอกจากผู้ต้องหาทั้งสองคนนี้ รูดี้ กูเอเด ชาวไอเวอรีโคสต์ ที่อยู่ในเมืองเปรูจา ก็ถูกดำเนินคดีเดียวกันนี้ ทว่า เขาถูกแยกพิจารณาคดี และศาลสูงสุดได้พิพากษาชี้ขาดโทษจำคุก 16 ปี
คณะอัยการอิตาลี ระบุว่า เหตุฆาตกรรมดังกล่าวเป็นผลจากการข่มขืน เมเรดิธ เคอร์เชอร์ และเปิดเผยว่า อะแมนดา น็อกซ์ เป็นคนเชือดคอเพื่อนร่วมบ้านพักรายนี้ ขณะที่ผู้ต้องหาชายอีกสองคนช่วยกับจับตัวเหยื่อ มิหนำซ้ำ มีรายงานเพิ่มเติมว่า รูดี้ กูเอเด เข้าไปยังบ้านพักนักศึกษาหลังดังกล่าว เพื่อขายยาเสพติดให้กับคู่รักคู่นี้
ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญในการอุทธรณ์ครั้งนี้ คือ ผลการวิเคราะห์ ตะขอเกี่ยวเสื้อชั้นในของเหยื่อ และมีดทำครัวเล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นหลักฐานที่นำไปสู่การดำเนินคดีกับน็อกซ์ และ โซลเลซิโต
ตำรวจอิตาลี ระบุว่า พบดีเอ็นเอของน็อกซ์ บนด้ามจับมีด และมีดีเอ็นเอของเคอร์เชอร์ติดอยู่บนใบมีด ซึ่งคาดว่า ฆาตกรใช้เป็นอาวุธ ขณะที่มีดเล่มนี้ถูกพบอยู่ในห้องครัวที่บ้านของรัฟฟาเอล โซลเลซิโต
ส่วนตะขอเกี่ยวเสื้อชั้นในถูกพบที่ห้องนอนของ เมเรดิธ เคอร์เชอร์ หลังเกิดเหตุฆาตกรรมหลายสัปดาห์ และมีรายงานว่า พบดีเอ็นเอของโซลเลซิโต บนหลักฐานสำคัญชิ้นนี้
อย่างไรก็ตาม คณะผู้เชี่ยวชาญอิสระที่ได้รับอำนาจจากศาลอุทธรณ์อิตาลี กลับเสนอรายงานว่า งานด้านดีเอ็นเอระหว่างการสืบสวนคดีนี้ด้อยคุณภาพ