เอเจนซี - รัฐมนตรีการค้าญี่ปุ่น เผย รัฐบาลจะอนุญาตให้เด็ก และหญิงตั้งครรภ์ กลับเข้าพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะได้ หลังสภาพความเป็นอยู่หลังมหาภัยพิบัติแผ่นดินไหว และสึนามิในเดือนมีนาคมเริ่มดีขึ้นแล้ว
ยูคิโอะ เอดาโน รัฐมนตรีการค้า ผู้ดูแลความเสียหายด้านเศรษฐกิจจากหายนะภัยนิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุดของโลกในรอบ 25 ปี กล่าวว่า “พวกเราได้ดำเนินการที่มีประสิทธิภาพในการซ่อมแซม และบูรณะพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัตินิวเคลียร์”
“พวกเรารู้ว่าผู้ที่ถูกอพยพออกจากพื้นที่นี้เป็นห่วงเกี่ยวกับการปนเปื้อนของรังสี และสาธารณูปโภค” เขาเสริม โดยว่ารัฐบาลจะช่วยทำความสะอาดพื้นที่เหล่านี้ และจัดระเบียบโครงสร้างสังคม เช่น โรงเรียน และโรงพยาบาลด้วย
ทั้งนี้ โรงเรียนหลายแห่งในพื้นที่เหล่านี้ต้องปิดตัวไป เนื่องจากอยู่ภายในรัศมี 20-30 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยเกือบ 60,000 ชีวิตก่อนหน้าเกิดรังสีรั่วไหลจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าว
แม้ว่าการอพยพจะไม่ได้เป็นการบังคับบรรดาผู้อยู่อาศัย เพราะกัมมันตภาพรังสียังไม่เกินขีดจำกัดที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่ก็มีคนย้ายออกไปจากพื้นที่เหล่านี้ถึง 30,000 ราย โฆษกสำนักงานรความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เผย
รัฐบาลท้องถิ่น และอาสาสมัครได้ช่วยกันทำงานเพื่อลดระดับกัมมันตภาพรังสีในบริเวณเหล่านี้ เช่น การขุดดินชั้นบนที่ปนเปื้อนรังสีไปทิ้ง แต่ชาวเมืองก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
ด้านผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่า โครงการกวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนรังสีอาจมีมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ญี่ปุ่นต้องหาที่เก็บ และกำจัดกากนิวเคลียร์จำนวนมหาศาล จากความพยายามในการทำความสะอาดพื้นที่เหล่านั้นด้วย