xs
xsm
sm
md
lg

สัปดาห์สาหัสสำหรับ “กรีซ-เงินยูโร” ตลาดโวยยังไม่เห็นวิธีแก้ปัญหาชัดๆ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการรายวัน - สัปดาห์นี้จะเป็นช่วงเวลาที่ลำบากสาหัสสำหรับทั้งประเทศกรีซ และเงินตราสกุลยูโร โดยที่คณะผู้เชี่ยวชาญของสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กำลังจะกลับไปตรวจสอบความคืบหน้าของกรุงเอเธนส์ ในเรื่องการหั่นลดยอดขาดดุลงบประมาณ และการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกับที่ตลาดการเงินก็เต็มไปด้วยข่าวลือ ทั้งเรื่องที่กรีซจะเข้าสู่กระบวนการหยุดพักชำระหนี้อย่างเป็นระเบียบ และพวกธนาคารในยุโรปจะได้รับความช่วยเหลือในเรื่องการเพิ่มทุน เพื่อรับมือกับการขาดทุนยับเยินจากการถือครองพันธบัตรกรีซ

อียูและไอเอ็มเอฟจะอาศัยผลการประเมินของคณะผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตัดสินว่าจะปล่อยเงินกู้งวดต่อไปจำนวน 8,000 ล้านยูโร ให้แก่กรีซหรือไม่ ทั้งนี้เงินดังกล่าวยังคงเป็นส่วนหนึ่งของเงินกู้ช่วยเหลือไม่ให้รัฐบาลกรีซต้องผิดนัดชำระหนี้ก้อนแรก ที่ได้อนุมัติไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว

ถ้าหากไม่ได้รับเงินกู้งวดนี้ กรีซก็จะไม่สามารถชำระหนี้สินต่างๆ ที่ติดค้างอยู่ในปัจจุบันตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป

ตลาดการเงินของโลกอยู่ในภาวะผันผวนหนักในช่วงหลังๆ มานี้ โดยสาเหตุสำคัญประการหนึ่งคือกรณีหนี้สินภาคสาธารณะของกรีซ ที่ทำท่าลามไปสู่ประเทศสมาชิกยูโรโซนอื่นๆ รวมทั้งจะสร้างความเสียหายแก่พวกธนาคารยุโรปที่เข้าไปถือครองพันธบัตรของกรีซ ตลอดจนของชาติยูโรโซนที่อ่อนแอรายอื่นๆ

พวกนักวิเคราะห์ตลาดต่างพากันผิดหวังที่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา การประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการแบงก์ชาติของกลุ่ม 20 ประเทศเศรษฐกิจรายใหญ่ของโลก (จี-20) ตลอดจนการประชุมประจำปีภาคฤดูใบไม้ร่วงของธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟ ยังคงไม่ได้มีผลให้เห็นประจักษ์เป็นการปฏิบัติการอย่างเป็นรูปธรรม และความผิดหวังเช่นนี้ก็ได้ทำให้ตลาดหุ้นแถบเอเชียวานนี้ร่วงกันระเนระนาด

อย่างไรก็ดี มีรายงานข่าวจากสื่อมวลชนหลายกระแส ซึ่งทำให้เกิดการคาดเก็งกันว่าพวกผู้วางนโยบายของอียู กำลังพิจารณาแผนการในการแก้ปัญหาใหญ่ๆ รวม 3 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มเงินทุนของกองทุนเพื่อเสถียรภาพทางการเงินแห่งยุโรป (อีเอฟเอสเอฟ) ให้สูงขึ้นเป็น 3 ล้านล้านยูโร, การช่วยให้พวกธนาคารยุโรปสามารถเพิ่มทุน และการปล่อยให้กรีซเข้าสู่กระบวนการหยุดพักชำระหนี้อย่างเป็นระเบียบ

ปรากฏว่าข่าวลือเช่นนี้กลายเป็นปัจจัยที่หนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปขยับขึ้นสู่แดนบวกในช่วงกลางๆ ตลาดเมื่อวันจันทร์ (26) ถึงแม้นักวิเคราะห์หลายคนจะชี้ว่า เป็นการขึ้นไปที่อ่อนแอ เนื่องจากอาศัยเพียงแค่กระแสข่าวลือ

ก่อนหน้านั้นในวันอาทิตย์ (25) รัฐมนตรีคลัง อีวานเกลอส เวนิเซลอส ของกรีซ กล่าวที่กรุงวอชิงตันว่า เอเธนส์จะนำเอามาตรการใหม่ๆ ในการต่อสู้กับวิกฤตหนี้สินออกมาใช้

แต่ถึงแม้เขาจะให้คำมั่นเช่นนี้ พวกเจ้าหน้าที่อียูและยูโรโซนที่มองการณ์ในแง่ร้าย ก็กำลังวางแผนการเพิ่มขนาดของกองทุนอีเอฟเอสเอฟ เพื่อให้มีเงินทุนเพียงพอในกรณีที่มีชาติยูโรโซนอื่นๆ ย่ำแย่ถึงขั้นต้องขอความช่วยเหลือไม่ให้ต้องหยุดพักชำระหนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกชาติสมาชิกที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ๆ อย่างเช่น อิตาลี และสเปน

“เรากำลังขบคิดพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะให้กองทุนอีเอฟเอสเอฟมีอำนาจเพิ่มผลทางการเงินมากขึ้น ให้กองทุนนี้มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีก” โอลลี เรห์น กรรมาธิการฝ่ายการเงินของอียู กล่าวไว้ในบทความซึ่งตีพิมพ์ทางหนังสือพิมพ์ ดี เวลท์ ของเยอรมนี ฉบับวันจันทร์

นักวิเคราะห์จำนวนมากยังคงบ่นอุบเรื่องที่การประชุมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาของบรรดาขุนคลังและผู้ว่าการแบงก์ชาติ โดยเฉพาะในเวที จี-20 ไม่ได้มีมาตรการที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม โดยเพียงมีการออกคำแถลงให้สัญญาที่จะดำเนิน “ปฏิบัติการอันแข็งแรงเพื่อประคับประคองเสถียรภาพทางการเงิน, ฟื้นฟูความเชื่อมั่น และสนับสนุนการเจริญเติบโต”

“แต่พวกเขากลับไม่ได้กำหนดมาตรการที่จะมีผลในทันทีขึ้นมาเลย ดังนั้นจึงยังล้มเหลวไม่อาจหยุดยั้งตลาดที่กำลังเทขายพวกสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง” เทปเปะ อิโนะ นักวิเคราะห์แห่งธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ให้ความเห็น

นายกรัฐมนตรี จอร์จ ปาปันเดรอู ของกรีซ มีกำหนดไปเยือนเยอรมนีในสัปดาห์นี้ ก่อนหน้าที่รัฐสภาเยอรมันจะออกเสียงในวันพฤหัสบดี (29) นี้ว่า รับรองหรือไม่รับรองแผนการที่จะเพิ่มเงินทุนของกองทุนอีเอฟเอสเอฟ ตลอดจนให้อำนาจหน้าที่แก่กองทุนนี้มากขึ้น ทั้งนี้ ถ้าหากเยอรมนีที่เป็นผู้ออกเงินรายใหญ่ที่สุดในบรรดาชาติอียู เกิดไม่รับรองแผนการนี้แล้ว ก็ย่อมจะยิ่งสร้างความปั่นป่วนผันผวนให้แก่การแก้ปัญหาหนี้สินของยูโรโซน
กำลังโหลดความคิดเห็น