เทเลกราฟ - เสียงครหาที่อ้างว่า วลาดิมีร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย เคยเข้ารับการศัลยกรรมความงามใบหน้า กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากนิตยสารรัสเซียฉบับหนึ่งขุดคุ้ยข่าวลือตั้งแต่ปี 2010 ขึ้นมาขาย ขณะที่เขากำลังเตรียมตัวหวนคืนสู่เก้าอี้ประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3
บุรุษผู้ทรงอิทธิพลวัย 58 ปีรายนี้ กลายเป็นประเด็นให้สังคมชาวบล็อกในรัสเซียตอบโต้กันดุเดือด ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเขาตกปากรับคำเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ของพรรคยูไนเต็ดรัสเซีย ในที่ประชุมพรรคเมื่อวันเสาร์ (24) ที่ผ่านมา
ผิวรอบดวงตาของปูตินแทบจะไร้รอยเหี่ยวย่น และไม่มีอาการหย่อนคล้อยของถุงใต้ตา ก่อให้เกิดความเคลือบแคลงใจว่า วลาดิมีร์ ปูติน เคยผ่านการศัลยกรรมมาแล้วหลายครั้ง เพื่อให้หน้าตาดูอ่อนกว่าวัย
ขณะที่กำลังจะย่างเข้าสู่วัย 59 ปีในเดือนหน้า นายกรัฐมนตรี ปูติน ยังสามารถภาคภูมิใจกับภาพลักษณ์ชายผู้คลั่งไคล้กีฬายูโด รูปร่างสมส่วน และตำแหน่งผู้นำประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในโลก
ปูติน ได้รับการวางตัวให้ดำรงตำแหน่งผู้นำรัสเซียไปอีก 2 สมัยต่อเนื่อง นั่นจะทำให้เขาครองอำนาจยืนยาวไปจนกระทั่งปี 2024 ด้วยวัย 71 ปี
ทั้งนี้ ข่าวลือเรื่องศัลยกรรมความงามใบหน้าของปูติน ปรากฏขึ้นครั้งแรก เมื่อเดือนตุลาคม 2010 ระหว่างการร่วมแถลงข่าวในยูเครน ด้วยการแต่งหน้าเข้มผิดปกติ จนดูเหมือนมีรอยช้ำรอบดวงตาของปูติน โฆษกส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีรัสเซียรายนี้ แก้ต่างว่า เสียงร่ำลือดังกล่าวเป็นเรื่องเข้าใจผิด โดยอ้างว่า เป็นเพราะแสงที่ตกกระทบ และความเหน็ดเหนื่อยจากการกรำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นิตยสารนิวไทม์ส ของรัสเซีย ขุดเรื่องการทำศัลยกรรมของปูตินออกมาอีกครั้ง ด้วยการตีพิมพ์บทความ ชื่อ “เกิดอะไรขึ้นกับหน้าของปูติน” (What has happened with Putin's face?) ผู้เขียนบทความชิ้นนี้ได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำศัลยกรรมพลาสติก 4 ราย ซึ่งสรุปตรงกันว่า ปูตินเคยผ่านการศัลยกรรมความงามใบหน้า
นอกจากนี้ นิตยสารนิวไทม์ส ยังระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ปูตินเคยฉีด “โบท็อกซ์” บริเวณหน้าผาก, ตกแต่งถุงใต้ตา และฉีดฟิลเลอร์เข้าบริเวณแก้ม