เอเอฟพี - สตาร์บัคส์ เครือข่ายร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 3 ล้านดอลลาร์ โดยนักท่องเที่ยวรายหนึ่งจากเวอร์จิเนีย ซึ่งอ้างว่าลูกสาววัย 5 ขวบของเขา พบกล้องวิดีโอซ่อนอยู่ในห้องน้ำ ที่สาขาหนึ่งในกรุงวอชิงตัน
วิลเลียม ยอคกี วัย 28 ปี กล่าวหาบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟระดับโลก ซึ่งตั้งอยู่ในซีแอตเติล นี้ ว่า ได้ละเมิดความเป็นส่วนตัว ประมาท จงใจกลั่นแกล้งให้เกิดความทุกข์ทางอารมณ์ และละเลยในการจ้างงาน ฝึกฝน และควบคุมพนักงาน
ยอคกี ซึ่งพาครอบครัวของเขาเดินทางเที่ยวนครหลวงของสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา รายงานเรื่องที่น่าอัปยศ และน่ารังเกียจนี้ต่อผู้จัดการสาขา ที่อยู่ห่างจากทำเนียบขาวไปเพียงไม่กี่บล็อก ในทันที สำเนาคำฟ้องของเขาระบุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เชือกกั้นห้องน้ำ และเก็บรอยนิ้วมือจากกล้อง ที่พบซ่อนไว้ในท่อรูปตัวยูใต้อ่างล้างมือ ก่อนจะยึดไว้เป็นหลักฐานต่อไป
“เป็นเรื่องน่าอับอาย และน่าอัปยศมาจนถึงวันนี้” ยอคกี กล่าวกับสถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ โดยเสริมว่าคลิปที่ถ่ายลูกสาวของเขาไว้อาจว่อนอยู่ทั่วอินเทอร์เน็ตแล้ว และเธอก็อาจถูกประทุษร้ายได้
ด้าน แฮงค์ ชลอสเบิร์ก ทนายความของยอคกี ขอให้ศาลสูงสุดของดิสตริกต์ออฟโคคัมเบีย เพื่อให้คณะลูกขุนพิจารณาสั่งสตาร์บัคส์จ่ายค่าเสียหาย 1 ล้านดอลลาร์ และอีก 2 ล้านดอลลาร์เป็นค่าปรับในคดีละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
ขณะที่ยังไม่สามารถติดต่อโฆษกของสตาร์บัคส์เพื่อสอบถามได้ แต่ ซิตี้เปเปอร์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายสัปดาห์ รายงานว่า บริษัทกาแฟแห่งนี้ยื่นขอให้ศาลยกฟ้องจากการที่ยอคกีไม่สามารถพิสูน์ความผิดของพนักงานได้ แต่ก็ไม่สำเร็จ
ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตำรวจจับกุมชายคนหนึ่ง ซึ่งต้องสงสัยว่าแอบถ่ายผู้หญิงไม่ต่ำกว่า 40 คนตามร้านสตาร์บัคส์หหลายแห่งในแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ชายอีกคนถูกจับในเดือนมิถุนายน ฐานลักลอบวางกล้องไว้แอบถ่ายในร้านสตาร์บัคส์อีกสาขาที่ฟลอริดา