เอเอฟพี - ทางการอียิปต์ประกาศสถานการณ์เตือนภัยระดับสูงในวันนี้ (10) หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ซึ่งบุกเข้าไปในสถานทูตอิสราเอลประจำกรุงไคโร และโยนเอกสารทางการทูตหลายพันฉบับออกทางหน้าต่าง โดยมีผู้เสียชีวิตในการปะทะกันครั้งนี้แล้ว 1 ราย บาดเจ็บอีกว่า 400 คน
กลุ่มผู้ชุมนุมชาวอียิปต์นับพันคนรวมตัวกันประท้วงหน้าสถานทูตอิสราเอลในกรุงไคโร เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกสนธิสัญญาสันติภาพกับรัฐบาลยิว โดยพวกเขาได้จุดไฟเผารถตำรวจ และถล่มสำนักงานใหญ่ตำรวจเทศบาล หลังจากบุกเข้าไปในสถานทูต โค่นธงชาติยิว และโยนเอกสารทางการทูตหลายพันฉบับทิ้งทางหน้าต่าง
ขณะที่กำลังทหารอียิปต์หลายร้อยนาย พร้อมด้วยรถเกราะกันกระสุนจำนวนหนึ่งรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ หลังประธานาธิบดีบารัค โอบามาออกมาเรียกร้องให้ทางการไคโรคุ้มครองสถานทูตอิสราเอล ซึ่งมีการตัดไฟตามถนนโดยรอบเป็นระยะทางหลายบล็อกในการปฏิบัติภารกิจยุติความรุนแรง
สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นรายงานว่า เหตุประท้วงรุนแรงครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 รายจากอาการหัวใจวาย และอีก 448 คนได้รับบาดเจ็บ ทำให้มันเซอร์ อัล อีสซาวี รัฐมนตรีมหาดไทยอียิปต์ประกาศเตือนภัยระดับสูง เช่นเดียวกับทางรัฐบาลที่เรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือแก้ไขวิกฤตเหตุปะทะรุนแรงดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ในเช้าวันนี้ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำกรุงไคโรได้เดินทางหลบหนีออกจากอียิปต์กลับไปยังอิสราเอลแล้วอย่างปลอดภัย
ด้านสถานีโทรทัศน์ทางการ ได้อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยรายหนึ่ง ที่ว่า ต่างชาติยื่นมือเข้ามาชักใยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงนี้
ในเช้าวันศุกร์ (9) ผู้ชุมนุมประท้วงหลายพันคนได้ไปรวมตัวกันที่จตุรัสตอรีร์ เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูป และยุติการพิจารณาคดีโดยศาลทหารต่อพลเรือน หลังจากนั้นผู้ชุมนุมราว 1,000 คนก็ย้ายไปรวมตัวกันที่สถานทูตอิสราเอล ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างอียิปต์ ซึ่งเป็นชาติอาหรับประเทศแรกที่สานสัมพันธ์ทางการทูตกับยิวในปี 1979 และอิสราเอลนั้นเริ่มตึงเครียดมาตั้งแต่ 18 สิงหาคม เมื่อทหารอิสราเอลสังหารนายตำรวจอียิปต์ 5 นายระหว่างไล่ล่ากลุ่มติดอาวุธบริเวณชายแดน