เดลิเมล์ - กลุ่มสิทธิมนุษยชนตีแผ่รายงานอันน่าสลดเมื่อวันอังคาร (30) พบคุณพ่อชาวลิเบียรายหนึ่งลงมือสังหารลูกสาว 3 คนของตนเองที่ถูกเหล่าทหารของกัดดาฟีรุมโทรม เพื่อรักษาเกียรติยศของครอบครัว (honour killing หรือยโศโฆษาฆาต)
องค์กรแพทย์เพื่อสิทธิมนุษยชน(Physicians for Human Rights) เปิดเผยว่าเด็กหญิงทั้ง 3 คน อายุ 15, 17 และ 18 ปี ถูกกองกำลังที่ภักดีต่อโมอัมมาร์ กัดดาฟี ประธานาธิบดีลิเบีย รุมข่มขืน ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตโทมินา ใกล้เมืองมิสราตา ระหว่าง 2 เดือนที่ทหารฝ่ายรัฐบาลควบคุมเมืองแห่งนี้
แต่พอกลับบ้าน พวกเธอกลับถูกบิดาแท้ๆ เชือดคอจนเสียชีวิตในเหตุฆ่าที่เรียกว่ายโศโฆษาฆาต หรือฆ่าเพื่อรักษาเกียรติยศของครอบครัว
เรื่องราวอันน่าเศร้านี้เป็นหนึ่งในหลายเหตุการณ์ที่ถูกเปิดโปง หลังจากทางองค์กรแพทย์เพื่อสิทธิมนุษยชนส่งทีมงานสัมภาษณ์ลงพื้นที่เมืองมิสราตาในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนไม่นานหลังจากกองกำลังกบฏสามารถขับไล่ทหารของกัดดาฟีได้สำเร็จ
องค์กรสิทธิมนุษยชนซึ่งมีฐานบัญชาการอยู่ในวอชิงตันแห่งนี้ สรุปผลการลงพื้นที่ว่าพบหลักฐานอย่างกว้างขวางถึงการก่ออาชญากรรมสงคราม ณ ช่วงเวลาระหว่างที่ทหารของกัดดาฟียึดครองเมืองแห่งนี้
“ผู้เห็นเหตุการณ์ 4 คน รายงานว่า ทหารของกัดดาฟีบังคับพลเรือน 107 คนและใช้พวกเขาเป็นโล่มนุษย์ป้องกันกระสุนจากการโจมตีของนาโต บริเวณทางใต้ของมิสราตา” รายงานขององค์กรแพทย์เพื่อสิทธิมนุษยชนระบุ
ริชาร์ด ซอลลอม หนึ่งในผู้เขียนรายงานดังกล่าวสรุปความว่า แม้ไม่พบหลักฐานถึงการข่มขืนอย่างกว้างขวาง แต่ความหวาดกลัวว่าจะถูกกระทำชำเราก็ลุกลามไปทั่ว “ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งบอกว่าทหารของกัดดาฟี ปรับเปลี่ยนโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งเป็นสถานที่กักขัง และมีข่าวว่าพวกเขาใช้สถานที่ดังกล่าวข่มขืนผู้หญิงและเด็กสาว”
อย่างไรก็ตาม ซอลลอมยอมรับว่าไม่พบหลักฐานที่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธรายงานข่าวที่ระบุว่าทหารผู้ภักดีของกัดดาฟีได้รับแจกยาปลุกเซ็กซ์ลักษณะเดียวกับไวอะกร้า สำหรับข่มขืนและทำร้ายผู้หญิงฝ่ายต่อต้าน
ทางองค์กรแพทย์เพื่อสิทธิมนุษยชนอ้างด้วยว่า พวกเขาพบสำเนาคำสั่งทางทหารที่สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่ากัดดาฟีมีคำสั่งให้กองกำลังผู้จงรักภักดีกลั่นแกล้งให้ประชาชนอดอยาก ด้วยการปล้นที่ซ่อนอาหารและห้ามชาวบ้านรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่องค์กรแพทย์เพื่อสิทธิมนุษยชนทำการสืบสวนประเด็นล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยทหารของกัดดาฟีเพียงฝ่ายเดียว อันเนื่องจากระยะเวลาการลงพื้นที่และพุ่งเป้าไปแค่เมืองมิสราตา นั่นหมายความว่าองค์กรแพทย์เพื่อสิทธิมนุษยชน ไม่อาจแสดงจุดยืนต่อประเด็นละเมิดสิทธิมนุษยชนของฝ่ายกบฏลิเบีย หรือนาโต
กระนั้นก็ตาม องค์กรแพทย์เพื่อสิทธิมนุษยชนแนะนำว่า นาโตควรทำการสืบสวนข้อกล่าวหาละเมิดสิทธิมนุษยชนที่น่าเชื่อถือของกองกำลังฝ่ายพันธมิตรเองด้วย