เดลิเมล์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ชาวเปรูในเมืองกุสโก (Cusco) ต่างตกอยู่ในภวังค์ และจ้องมองผืนฟ้าเป็นตาเดียวกันเมื่อวันพฤหัสบดี (25) ที่ผ่านมา ขณะอุกกาบาตที่กำลังลุกไหม้ลูกหนึ่งพุ่งเป็นทางลงมาสู่พื้นโลก โดยมีผู้สามารถบันทึกภาพปรากฏการณ์ทางธรรมชาติครั้งนี้ไว้ได้ ก่อนที่มันจะเลือนหายไปจากขอบฟ้า
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า อุกกาบาตลูกนี้ อาจเป็นสาเหตุของไฟป่าในเมืองกุสโก ทางตอนใต้ของเปรู ซึ่งปะทุขึ้นหลังมีรายงานการเห็นอุกกาบาตลูกนี้ เจ้าพนักงานท้องที่และตำรวจเปรูกำลังพยายามตรวจสอบจุดที่อุกกาบาตตกสู่พื้นโลก ระหว่างเขตซาน เซบาสเตียน กับเขตซาน เกโรนีโม ในเมืองกุสโซ
เมืองกุสโกเป็นเสมือนประตูสู่ “มาชูปิกชู” ป้อมปราการแห่งอินคา โดยร่องรอยวัฒนธรรมแห่งจักรวรรดิอินคาสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังเมืองกุสโกจำนวนมาก ทว่า ทางการมีระเบียบบังคับที่เข้มงวด ซึ่งจะเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมวันละ 200 คนเท่านั้น
ทั้งนี้ ปรากฏการณ์อุกกาบาตตกเกิดขึ้นในเปรูครั้งล่าสุดเมื่อปี 2007 แถบพื้นที่ชายแดนติดกับโบลิเวีย
อุกกาบาต คือ เศษเสี้ยวของหิน หรือบางครั้งอาจเป็นโลหะที่สามารถผ่านชั้นบรรยากาศลงมาถึงพื้นโลก อุกกาบาตเหล่านี้ส่วนใหญ่มักเกิดจากการชนกันระหว่างดาวเคราะห์ในอวกาศ
ด้วยแรงดึงดูดของโลก อุกกาบาตจะพุ่งลงสู่พื้นโลกด้วยความเร็วเกินกว่า 11.2 กิโลเมตร/วินาที อุกกาบาตอาจมีขนาดแตกต่างกันไปตั้งแต่ขนาดเล็กไม่กี่มิลลิเมตรไปจนถึงขนาดใหญ่เท่าสนามฟุตบอล ตามทฤษฎีของนักวิทยาศาสตร์ เชื่อกันว่า เมื่อ 65 ล้านปีที่ผ่านมา อุกกาบาตขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 กิโลเมตร เคยพุ่งชนโลกและทำลายล้างชีวิตไดโนเสาร์มาแล้ว
อนึ่ง ในแต่ละปีมีอุกกาบาตตกลงสู่พื้นโลกจำนวนหลายร้อยลูก ทว่ามีเพียงจำนวนน้อยที่มนุษย์สามารถตามสำรวจพบ