เอเอฟพี - เครื่องบินอังกฤษโจมตีบังเกอร์แห่งหนึ่งในเมืองซีราเต บ้านเกิดของมูอัมมาร์ กัดดาฟี ขณะที่เมื่อวันศุกร์(26) ฝ่ายกบฏเดินหน้ากระหน่ำรุกไล่ทางภาคพื้นดินต่อเมืองแห่งนี้ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของกรุงตริโปลี อันเป็นที่มั่นหลักสุดท้ายของกองกำลังรัฐบาล ขณะที่องค์กรสิทธิมนุษยชนค้านแนวทางตั้งรางวัลล่าหัวผู้นำลิเบียของฝ่ายต่อต้าน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่าเหล่าผู้นำของฝ่ายกยฏได้เคลื่อนย้ายเข้าไปยังกรุงตริโปลีแล้ว เพื่อเริ่มเปลี่ยนถ่ายทางการเมือง พร้อมๆกับที่สหภาพแอฟริกาเรียกร้องให้ขอให้กระบวนการดังกล่าวเป็นไปอย่างครอบคลุม
"ราวเที่ยงคืน ฝูงบิน Tornado GR4s ยิงขีปนาวุธนำวิถีโจมตีป้อมปราการบัญชาการขนาดใหญ่ในเมืองซีราเต บ้านของกัดดาฟี" กระทรวงกลาโหมของอังกฤษกล่าวในลอนดอน พร้อมระบุว่าเครื่องบินของพวกเขายังถล่มยานยนต์ติดอาวุธ 29 คันและคุมสถานการณ์ในเมืองที่อยู่ติดๆกันได้แล้ว
มีข่าวลือก่อนหน้านี้ว่า กัดดาฟี อาจหลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองดังกล่าวที่อยู่ห่างจากกรุงตริโปลีไปทางตะวันออก 360 กิโลเมตร แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลยืนยันรายงานดังกล่าว
เมื่อวันพฤหัสบดี(25) สภาเปลี่ยนผ่านแห่งชาติลิเบีย(NTC) เคลื่อนย้ายบุคคลระดับผู้นำจากเมืองเบงกาซีไปยังเมืองหลวง ไม่กี่วันหลังจากฝ่ายกบฏรุกเข้าไปและยึดกรุงตริโปลีรวมถึงกองบัญชาการของกัดดาฟีได้สำเร็จ
ก่อนหน้านั้นวันพุธ(24) ฝ่ายกบฏลิเบียตั้งค่าหัวผู้นำ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟีไว้ 2 ล้านดินาร์ (ราว 1.7 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 50 ล้านบาท) สำหรับผู้ใดก็ตามที่สามารถจับเป็นหรือจับตายเขาได้
อย่างไรก็ตามในวันศกุร์(26) องค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวที่กรุงเจนีวา กล่าวนักไล่ล่าที่หวังเงินรางวัลจากการฆ่ากัดดาฟี ว่าการลอบสังหารใดๆนั้น ไม่มีทางที่จะถูกต้องตามหลักนิติธรรม
โฆษกขององค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งนี้แนะว่าทางที่ดีที่สุดคือจับเป็นกัดดาฟี ตามหมายจับข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษย์ที่ออกโดยศาลอาญาระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า กัดดาฟี หลบซ่อนอยู่ที่ใดท่ามกลางปฏิบัติการไล่ล่าอย่างหนักของฝ่ายกบฏ และเมื่อวันพฤหัสบดี(25) เขาได้ออกเทปเสียงเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนหยิบอาวุธขึ้นสู้