เอเอฟพี - การต่อสู้ปะทะกันระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์ดำเนินมาเป็นวันที่ 3 แล้วในวันเสาร์ (20) ขณะที่รัฐยิวต้องเผชิญวิกฤตทางการทูตครั้งใหญ่ เมื่ออียิปต์มีคำสั่งเรียกตัวทูตประจำกรุงเทลอาวีฟกลับประเทศ
การแลกกระสุนกันระหว่าง 2 ดินแดนนั้นเริ่มขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังการโจมตีหลายระลอกในวันพฤหัสบดี (18) ที่ทำให้ชาวอิสราเอลในเมืองไอลัต ใกล้กับชายแดนอียิปต์เสียชีวิตถึง 8 ราย
จรวดหลายลูกที่ยิงจากกาซาเข้าไปในพื้นที่ทางใต้ของอิสราเอลวันนี้ (20) ทำให้คนงานชาวปาเลสไตน์ ที่อาศัยอยู่ในอิสราเอลอย่างผิดกฎหมายได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ในจำนวนนั้นมีอาการสาหัส 2 ราย และยังสร้างความเสียหายให้กับบ้านหลังหนึ่ง
กองทัพยิวเผยว่า จำนวนจรวดทั้งหมดที่ตกในเขตอิสราเอลเช้าวันนี้ (20) นั้นมีทั้งหมด 19 ลูก ซึ่งทางอิสราเอลก็ได้ส่งเครื่องบินเข้าไปยิงถล่มหลายจุดในฉนวนกาซาของปาเลสไตน์เมื่อคืนที่ผ่านมา (19) เช่นกัน
ด้านเจ้าหน้าที่การแพทย์ของปาเลสไตน์ระบุว่า การโจมตีทางอากาศในเมืองกาซาทางตอนเหนือช่วงสายวันนี้ ทำใหห้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 1 คน แต่โฆษกกองทัพรายหนึ่งกลับบอกว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเหตุโจมตีเกิดขึ้น
ทางการปาเลสไตน์ไม่ได้รายงานเกี่ยวกับจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตในการโจมตีเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่เผยว่าการยิงถล่มทางอากาศของยิวในวันพฤหัสบดี และศุกร์ (19) นั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 14 ราย และได้รับบาดเจ็บกว่า 40 คน
ขณะที่สันนิบาตอาหรับจะจัดการประชุมฉุกเฉิน เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณฉนวนกาซานี้ในวันอาทิตย์ (21)
ส่วน รัฐบาลไคโรตัดสินใจจะเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอลกลับประเทศ จนกว่าจะมีคำขอโทษอย่างเป็นทางการจากอิสราเอล เพื่อประท้วงกรณีตำรวจอียิปต์ 5 นาย เสียชีวิตขณะเฮลิคอปเตอร์ยิวโจมตีกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์บริเวณชายแดน ตามรายงานของสำนักข่าวมีนา
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์อัล อะห์ราม ของทางการอียิปต์เช่นกัน รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่กองทัพนายหนึ่ง ซึ่งระบุว่า ตำรวจเหล่านั้นถูกกลุ่มติดอาวุธยิงเสียชีวิตต่างหาก
ทั้งนี้ ยิวประณามกลุ่มป๊อบปูลาร์ รีซิสแทนซ์ คอมมิตตีสำหรับการซุ่มโจมตีเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งจุดชนวนการยิงตอบโต้กันระหว่าง 2 ดินแดน ทว่า กลุ่มติดอาวุธดังกล่าวปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ แม้จะรู้สึกยินดีกับปฏิบัติการดังกล่าวก็ตาม
