เอเอฟพี - รัสเซียเตรียมอวดโฉมเครื่องบินขับไล่ล่องหน (สเตลธ์) สู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก วันนี้ (16) พร้อมทั้งเปิดม่านโครงการลับที่มีวัตถุประสงค์ในการผลิตอากาศยานเลี่ยงเรดาร์ราคาถูกกว่าของสหรัฐฯ ป้อนตลาด
“ซุคฮอย ที-50” เคยประเดิมการบินในฐานทัพอากาศฟาร์ อีสต์ ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2010 แต่วันนี้ถือเป็นการแสดงตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก ในงานแสดงอากาศยาน “มัคส์” (MAKS) ซึ่งจัดขึ้นนอกกรุงมอสโก อนึ่ง สเตลธ์เหล่านี้เป็นฝีมือการพัฒนาร่วมกันระหว่างรัสเซียและอินเดีย
ทั้งนี้ คาดกันว่า ที-50 รุ่นต้นแบบ 2 ลำจะบินอวดศักยภาพภายในบริเวณสนามบินซูคอฟสกี เพื่อแสดงแสนยานุภาพทางการทหารของกองทัพรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซีย เปิดเผยว่า ซุคฮอย ที-50 ฉบับสมบูรณ์แบบจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2016 โดยมีรายงานว่า อินเดียเตรียมสั่งเข้าประจำการไม่ต่ำกว่า 200 ลำ ส่วนรัสเซียเองก็มีรายงานว่า พร้อมรับเข้าประจำการอย่างน้อย 150 ลำ
มิฮาอิล โปโกเซียน (Mikhail Pogosyan) ประธานบริษัท ยูไนเต็ด แอร์คราฟต์ คอร์ปอเรชัน เคยเปรยถึงแผนการสร้างสเตลธ์มากถึง 1,000 ลำ ในอีก 10 ปีข้างหน้า ส่วนสถานีโทรทัศน์แห่งชาติรัสเซียรายงานว่า กรุงมอสโกตั้งเป้าที่จะกุมตลาดสเตลธ์มากถึง 1 ใน 3 ภายในปี 2012
อินเดียซึ่งเป็นลูกค้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดของรัสเซียจรดปากการ่วมพัฒนาโครงการ เมื่อเดือนธันวาคม 2010 ระหว่างที่ประธานาธิบดี ดมิตรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย เดินทางเยือนกรุงนิวเดลี
ข้อตกลงครั้งนั้นเป็นการคืนชีพให้กับโครงการสเตลธ์ ที่มีผู้ริเริ่มความคิดตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 1980 ช่วงเวลาที่สหภาพโซเวียตประกาศว่า ต้องการตัวตายตัวแทนของเครื่องบินขับไล่รุ่น “มิก-29” และ “ซู-27” ซึ่งประจำการอยู่ในขณะนั้น
ปีที่ผ่านมา สื่อรัฐบาลรัสเซีย รายงานว่า โครงการพัฒนาสเตลธ์ถลุงเงินไปแล้วมากถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 300,000 ล้านบาท) พร้อมทั้งเปิดเผยว่า “ที-50” จะมีราคาลำละไม่เกิน 100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,000 ล้านบาท) ขณะที่ “เอฟ-22 แรปเตอร์” สเตลธ์สัญชาติสหรัฐฯ ราคาสูงถึง 140 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,100 ล้านบาท) ต่อลำ
ภาพการเปิดตัวครั้งแรก วันที่ 29 มกราคม 2010
