เอเอฟพี - คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ฝากคำเตือนไปถึงรัฐบาลทั่วโลกวานนี้ (15) ให้หลีกเลี่ยงการลดรายจ่ายลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว และเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวจากพิษเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกเมื่อปี 2008
“สำหรับประเทศที่เศรษฐกิจแข็งแกร่งอยู่แล้ว จำเป็นที่จะต้องสร้างงบประมาณสมดุลในระยะยาว โดยวางแผนการใช้งบประมาณรวมที่น่าเชื่อถือ ในขณะเดียวกันเราต่างทราบกันดีว่า การตัดรายจ่ายของรัฐบาลเร็วเกินไปจะกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการจ้างงานในอนาคต” ลาการ์ด ให้สัมภาษณ์ในบทความข้อคิดเห็น ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียล ไทม์ส ฉบับวันนี้ (16)
ลาการ์ด แสดงความเห็นดังกล่าวในขณะที่หลายประเทศกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก รวมทั้งจากไอเอ็มเอฟเอง ที่เรียกร้องให้ประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯและมหาอำนาจในยุโรปเร่งจัดการกับปัญหาหนี้สิน ทั้งยังเกิดกระแสความกังวลว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดลงทั่วโลก
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือสหรัฐฯ ซึ่งหลังจากถูกบริษัทจัดเรตติ้ง สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (เอสแอนด์พี) ลดระดับความน่าเชื่อถือ ทำให้รัฐบาลต้องหาวิธีลดรายจ่ายส่วนต่างๆลง ขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมเหมือนจะนิ่งอยู่กับที่
ด้านฝรั่งเศสซึ่งเกรงว่าจะถูก เอสแอนด์พี ลดเรตติ้งไปด้วย ก็เตรียมหั่นงบประมาณลงเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ไอเอ็มเอฟ ยังปลอบขวัญมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเหล่านี้ โดยแนะให้ทำแผนลดหนี้สินในระยะยาว ซึ่งจะต้องลดรายจ่ายและเพิ่มภาษีไปพร้อมๆกัน
หลังจากที่สภาคองเกรสสหรัฐฯบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้สิน เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ลาการ์ด ก็ออกมาเตือนว่า รัฐบาลอเมริกันควรวางแผนตัดงบอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจ
วานนี้(15) นักวิเคราะห์จาก มูดีส์ ปรับลดการทำนายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯในครึ่งปีหลัง เหลือเพียง 2.0 เปอร์เซ็นต์หรือต่ำกว่า จากที่เคยประเมินไว้ 3.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว พร้อมระบุด้วยว่า สหรัฐฯมีโอกาสถึง 1 ใน 3 ที่จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรอบใหม่