เอเจนซี - ประธานาธิบดี เบนิโญ อากิโน แห่งฟิลิปปินส์ เปิดเจรจากับผู้นำมุสลิมแบ่งแยกดินแดนกลุ่มใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่โรงแรมในกรุงโตเกียว โดยหวังว่าจะการพุดคุยครั้งนี้อาจจะนำไปสู่การเจรจาสันติภาพได้ในที่สุด แหล่งข่าวภายในรัฐบาลและกลุ่มแบ่งแยกดินแดน เผยวันนี้ (5)
ประธานาธิบดี อากิโน ได้สนทนากับ มูราด อิบรอฮิม หัวหน้ากลุ่ม โมโร อิสลามิก ลิเบอเรชัน ฟรอนท์ (MILF) เป็นเวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง ที่โรงแรมใกล้สนามบินนาริตะ เมื่อค่ำวานนี้ (4) โดยมีหัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาร่วมวงสนทนาด้วย
หนึ่งในคณะผู้แทนเจรจาสันติภาพของฝ่ายกบฎมุสลิมให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่า “ผู้นำทั้ง 2 ท่านเห็นสมควรให้มีการเจรจาอย่างเร่งด่วน เพื่อยุติความขัดแย้งในภาคใต้ของฟิลิปปินส์” ทว่าการพบกันครั้งนี้ยังอยู่ในขั้น “ทำความรู้จักมักคุ้น” กันเท่านั้น
“นี่คือ สิ่งที่เราหวังว่าจะเกิดขึ้น แต่ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากตลอดหลายเดือนข้างหน้า” ผู้แทนกบฎเผย
ด้าน เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ ก็ยืนยันว่า มีการพบปะดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แต่ยังไม่ขอเผยรายละเอียด
“เราจะออกแถลงการณ์ในภายหลัง แต่แน่นอนว่า นี่คือความคืบหน้าในกระบวนการเจรจาเพื่อสันติภาพ” เจ้าหน้าที่ระบุ
ทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการเจรจารอบสองในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย
อากิโน เคยให้คำมั่นว่า จะพยายามบรรลุข้อตกลงทางการเมืองซึ่งยุติกิจกรรมของกลุ่มก่อความไม่สงบ 2 กลุ่มใหญ่ คือ กองกำลังคอมมิวนิสต์ และกบฎมุสลิมแบ่งแยกดินแดน ซึ่งสังหารพลเมืองไปแล้วกว่า 160,000 คน และทำให้ชาวบ้านกว่า 2 ล้านคนต้องอพยพหนีภัยก่อการร้าย ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
ความไม่สงบที่เกิดอยู่เนืองๆส่งผลให้นักลงทุนไม่กล้าเข้าไปทำธุรกิจในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ทั้งที่เชื่อกันว่ามีแหล่งน้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ และแร่หายากอยู่เป็นจำนวนมาก
นักวิเคราะห์มองว่า การหารือลับที่กรุงโตเกียวน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่สร้างสรรค์แต่ก็สุ่มเสี่ยงของ อากิโน ซึ่งหวังจะเปิดเจรจาสันติภาพกับกลุ่มกบฎโดยเร็ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความล่าช้า และฝ่ายกบฎก็ยังไม่เชื่อใจรัฐบาลกรุงมะนิลา
“การพบปะเช่นนี้ถือว่าเสี่ยงมากสำหรับประธานาธิบดี อากิโน และอาจเป็นการยื่นระเบิดให้ฝ่ายตรงข้าม หากรัฐบาลไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับพวกเขาได้”