เอเอฟพี/เอเจนซี - ศาลกัวเตมาลาพิพากษาตัดสินโทษจำคุกอดีตทหาร 4 นาย รายละ 6,060 ปี เมื่อวันอังคาร (2) ฐานสังหารหมู่พลเรือนมากกว่า 200 ชีวิต ในช่วงสงครามกลางเมืองปี 1982
“ศาลแห่งนี้ยืนยันเป็นเอกฉันท์ ว่า ผู้ต้องหามีความผิดฐานฆาตกรรม ตามความผิดแห่งคดีอาชญากรรม การฆาตกรรมเหยื่อแต่ละรายมีโทษจำคุก 30 ปี รวมทั้งหมดเป็นโทษจำคุก 6,030 ปี” ศาลกัวเตมาลาระบุในคำพิพากษา
นอกจากนี้ ศาลได้พิพากษาโทษจำคุกอดีตนายทหารแต่ละนายเพิ่มเติมอีก 30 ปี ฐาน “ใช้กองกำลังความมั่นคงแห่งรัฐก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” ส่งผลให้โทษจำคุกทั้งหมดรวมเป็น 6,060 ปี ต่อจำเลยแต่ละราย
ทั้งนี้ การฆาตกรรมประชาชนกว่า 200 ชีวิตดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียง 3 วันในเดือนธันวาคม 1982 ระหว่างสงครามกลางเมืองกัวเตมาลา ปี 1960-1996 พยานจำนวนหนึ่งให้การว่าเหยื่อความโหดร้ายของทหารกลุ่มนี้ยังรวมถึง สตรีมีครรภ์ เด็ก และคนชรา มีเด็กเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้
จำเลยทั้ง 4 รายในคดีนี้ ประกอบไปด้วย อันโตนิโอ การ์ลอส การิอัส, มานูเอล ปอป, เรเยส กอลลิน และ ดาเนียล มาร์ติเนซ ทั้งหมดเป็นนายทหารแถวหน้าของกองกำลังพิเศษ “กาบิล” ผู้รับหน้าที่สังหารหมู่ ณ หมู่บ้านดอส เอร์เรส ในจังหวัดเปเตง (Peten)
ศาลกัวเตมาลาได้นิยามการสังหารหมู่ดังกล่าว ว่า “วิปลาส” โดยกองกำลังกาบิลบุกโจมตีหมู่บ้านดอส เอร์เรส ยิง และใช้ค้อนขนาดใหญ่ไล่ทุบตีชาวบ้านจนถึงแก่ความตาย ก่อนโยนศพผู้เสียชีวิตลงในบ่อน้ำของหมู่บ้านจนเต็มบ่อ
กระทรวงสาธารณะกัวเตมาลา ระบุว่า รัฐบาลทหารของพลเอกโฮเซ เอฟเรน ริออส มอนตต์ สั่งการให้กองกำลังกาบิลบุกไปยังหมู่บ้านดอส เอร์เรส เพื่อตามหาอาวุธที่หายไป ซึ่งเชื่อว่าตกอยู่ในมือของกองโจรฝ่ายซ้าย
ปัจจุบัน โฮเซ เอฟเรน ริออส มอนตต์ ก็กำลังถูกดำเนินคดีอาชญากรรมต่อมนุษยชาติในสเปน และกัวเตมาลา เช่นกัน
การสังหารหมู่ ณ หมู่บ้าน ดอส เอร์เรส เป็นเพียงหนึ่งใน 699 คดีในรายงานของคณะกรรมาธิการสะสางประวัติศาสตร์ (Historical Clarification Commission) หน่วยงานผู้ทำหน้าที่ค้นหาความจริงเกี่ยวกับสงครามกลางเมือง ซึ่งเสนอรายงานว่ามีการสูญเสียประมาณ 200,000 ชีวิตในตลอดเวลา 36 ปีแห่งความรุนแรงกลางเมืองกัวเตมาลา