เอเอฟพี - บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นเผย ผลกำไรสุทธิในเดือนเมษายน-มิถุนายน ตกลงถึง 99% อันเป็นผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งร้ายแรงในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ก็ยังหวังว่าผลกำไรตลอดทั้งปีจะฟื้นขึ้นมาได้ 39%
ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกเผยว่า ผลกำไรสุทธิตกลง 99% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าเหลือเพียง 1,160 ล้านเยน (14.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยพยายามที่จะทำกำไร แม้ว่าแผ่นดินไหว และสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคมจะมีให้กิจการหยุดชะงักไป
การผลิตรถไฮบริดรุ่นพรีอุส และรถหรูเลกซัส ต้องขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 108,000 ล้านเยน จาก 211,600 ล้านเยนในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่รายได้สุทธิก็ตกลง 29.4% เหลือ 3.4 ล้านล้านเยนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม โตโยต้า และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ของญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวจากผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งร้ายแรง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต หรือสูญหายกว่า 20,000 คน และทำให้โรงไฟฟ้าหลายแห่งเสียหาย ซึ่งในจำนวนนั้นคือ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะไดอิจิ ที่ก่อให้เกิดวิกฤตนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ด้วย
ขณะที่ประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน และชิ้นส่วนประกอบรถยนต์มากขึ้นๆ หลังเหตุแผ่นดินไหวระดับ 9.0 ครั้งนั้น โตโยต้าจึงประกาศระงับการผลิตรถยนต์ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ชะลอการผลิตชั่วคราว หรือแม้กระทั่งปิดโรงงานไปหลายแห่ง
ทาคาฮิโกะ อิจิชิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารอาวุโสของโตโยต้า เผยในวันนี้ (2) ว่า บริษัทกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และหวังว่าการกระเตื้องขึ้นภายในครึ่งปีหลังจะช่วยให้ผลกำไรสุทธิประจำปีได้ถึงยอด 390,000 ล้านเยน หรือขึ้นจากที่ประเมินการในเดือนมิถุนายน 39%
อิจิชิยังระบุว่า ยอดขายรถยนต์ในญี่ปุ่น และอเมริกาเหนือลดลงอย่างมาก เฉพาะในญี่ปุ่นยอดขายตกลงถึง 42% เหลือเพียง 292,000 หน่วย ขณะที่อเมริกาเหนือยอดตกลง 48% เหลือ 276,000 หน่วย
เขาเสริมว่า โตโยต้าวางแผนเซ็นสัญญาจ้างงาน 4,000 ตำแหน่ง เพื่อให้ฟื้นการผลิตรถยนต์ได้อย่างเต็มที่หลังเดือนกันยายนนี้ด้วย