เอเอฟพี - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ กล่าวคำอวยพรถึงชาวมุสลิมทั่วโลกเนื่องในโอกาสการมาของเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ วานนี้ (1) พร้อมถือโอกาสเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยิบยื่นความช่วยเหลือแก่เหยื่อภัยแล้งและทุพภิกขภัยในแอฟริกา
แถลงการณ์จากโอบามาระบุว่า เดือนรอมฎอน “คือเดือนแห่งการอุทิศตนและใคร่ครวญถึงการกระทำของตนเอง เช่นเดียวกับในความเชื่ออื่นๆ การถือศีลอดจะช่วยยกระดับจิตวิญญาณ, เพิ่มพูนการดำรงตนอยู่ในหลักศาสนา และเตือนให้รำลึกถึงความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า”
“นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงความสำคัญของการหยิบยื่นปัจจัยแก่ผู้ที่ด้อยโอกาส ยอดผู้เสียชีวิตตลอดจนภาพของครอบครัวและเด็กๆในโซมาเลียและแหลมแอฟริกาที่กำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เตือนให้เรานึกถึงมนุษยธรรมอันเป็นสากล และผลักดันให้เราต้องเร่งช่วยเหลือ”
“ถึงเวลาแล้วที่ทุกชาติและทุกกลุ่มชนจะร่วมมือกันหยุดยั้งหายนะด้วยการสนับสนุนงานบรรเทาทุกข์ที่กำลังดำเนินอยู่”
“เวลาเช่นนี้ทำให้เรานึกถึงบทเรียนจากทุกๆความศรัทธาอันยิ่งใหญ่รวมถึงอิสลาม นั่นก็คือ จงปฏิบัติต่อผู้อื่นเหมือนเช่นที่เราคาดหวังให้เขาปฏิบัติต่อเรา”
“ในโอกาสนี้ ผมขออวยพรให้มุสลิมทั่วโลกประสบสันติสุขในเดือนอันจำเริญ และหวังที่จะได้จัดเลี้ยงอาหารละศีลอดแก่ทุกท่านที่ทำเนียบขาวอีกครั้ง รอมฎอน การีม”
ด้าน ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มุ่งประเด็นไปที่รัฐบาลซีเรีย “ซึ่งปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรงแม้จะอยู่ในเดือนรอมฎอนแล้วก็ตาม แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายและเลวทรามของระบอบอัสซาด”
“ในเดือนซึ่งประชาชนควรจะได้สวดขอพรและญาติพี่น้องได้พบปะกัน เรากลับต้องไว้อาลัยต่อการจากไปของพลเรือน โดยเฉพาะเด็กๆผู้บริสุทธิ์” คลินตันแถลง
ตลอดเดือนรอมฎอนนี้ มุสลิมผู้มีศรัทธาจะงดเว้นจากอาหาร, เครื่องดื่ม และการร่วมประเวณี ตั้งแต่รุ่งสางจนกระทั่งดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ซึ่งการถือศีลอดเป็นหนึ่งในหลักการสำคัญทั้ง 5 ของอิสลาม รวมถึงการเดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมุสลิมควรกระทำอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิตหากมีความสามารถ